ริยาดฯ 31 ส.ค.- บริษัทปุ๋ยยักษ์ใหญ่ของซาอุฯ ยอมขายปุ๋ยเคมีให้ไทยเพิ่มขึ้น กว่า 420,000 ตัน หวังช่วยลดปริมาณปุ๋ยเคมีไทยขาดแคลน หลัง 2 ประเทศรบทำสงครามให้ทำปุ๋ยตัวโลกมีราคาสูงและขาดแคลน ขณะที่รัฐมนตรีพาณิชย์ไทยย้ำช่วยให้เกษตรกรมีปุ๋ยเคมีใช้เพียงพอ แม้ราคาก็ไม่ถูกมากนัก แต่ภาครัฐจะเร่งหาทางช่วยเกษตรกรหาปุ๋ยราคาถูกเพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกร
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวภายหลังนำผู้แทนภาครัฐและเอกชนพบหารือกับผู้บริหารบริษัท SABIC (Saudi Basic Industries Corporation) Mr.Yousef Abdullah Al-Benyan ตำแหน่ง CEO บริษัท SABIC และคณะ ที่บริษัท SABIC ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยSABIC ถือเป็นบริษัทผลิตปุ๋ยรายใหญ่รายหนึ่งของโลกและเป็นรายใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งบริษัทนี้ทำธุรกิจหลายด้านโดยเฉพาะปิโตรเคมี ปุ๋ย เคมีภัณฑ์และอื่นๆ ทั้งอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ หลังจากฟื้นความสัมพันธ์ บริษัท SABICให้ความสำคัญกับประเทศไทยเป็นพิเศษและเป็นนโยบายของรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียต้องการอำนวยความสะดวกการเจรจา เพื่อให้ประเทศไทยสามารถนำเข้าปุ๋ยจากซาอุดีอาระเบียได้มากขึ้น แม้การนำเข้าปุ๋ยเพิ่มขึ้นยังแก้ปัญหาเรื่องราคาไม่ได้ เพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมากและปุ๋ยทำจากแก๊สธรรมชาติ เมื่อราคาแก๊สในตลาดโลกยังสูง ส่งผลให้ราคาปุ๋ยในตลาดโลกสูงขึ้นด้วย ดังนั้นเมื่อนำเข้าปุ๋ยเกือบ 100% ต้นทุนการนำเข้าปุ๋ยในประเทศไทยจึงสูงขึ้นตามราคาปุ๋ยในตลาดโลกและราคาก๊าซในตลาดโลก รวมทั้งการขนส่งปุ๋ยเข้ามาต้องใช้น้ำมัน ทำให้ราคาปุ๋ยในประเทศมีราคาสูง โดยต้องแก้ปัญหาเรื่องราคาแพง และปริมาณปุ๋ยต้องไม่ขาดแคลนเพื่อให้เกษตรกรทุกกลุ่มของไทยมีปริมาณปุ๋ยใช้ได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการ
นอกจากนี้ แม้ว่าราคาจะแก้ไขด้วยการจัดทำโครงสร้างราคาใหม่ โดยกรมการค้าภายในเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งทำเสร็จแล้วสอดคล้องกับต้นทุนที่เป็นจริงในการนำเข้า โดยดูจากใบอินวอยด์จริง ซื้อขายจริง ให้ยุติธรรมกับเกษตรกรที่เป็นผู้ใช้ปลายทางและผู้นำเข้า แต่ราคาก็ถือว่า สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริงเพื่อไม่ให้เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนที่สูงเกินไป ดังนั้น การนำคณะเดินทางเยือนซาอุฯและได้เจรจากับซาอุดีอาระเบียนำเข้าปุ๋ยและได้ทำสัญญาซื้อขาย นำเข้าปุ๋ยได้แล้วถึงเดือนกรกฎาคม จำนวน 323,000 ตัน และเดือนสิงหาคมนี้ มีการเจรจานำเข้าเพิ่มเติมอีก 102,000 ตัน รวมนำเข้าปุ๋ยจากซาอุฯ 425,000 ตันทำให้ปัญหาขาดแคลนปุ๋ยไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่เรื่องราคายังต้องเป็นไปตามกลไกของราคาปุ๋ยในตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องจัดโครงการปุ๋ยราคาพิเศษช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการเฉพาะ ตนได้สั่งการว่าจะทำอย่างไรให้กระทรวงเกษตรฯกับกระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกันแสวงหาแหล่งปุ๋ยราคาพิเศษ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จะพยายามเต็มที่ และจัดปุ๋ยราคาพิเศษให้กลุ่มเกษตรกร แต่ละรายเป็นราคาตลาด ซึ่งตนได้สั่งการไปแล้ว สำหรับซาอุดีอาระเบียเรานำเข้าปุ๋ยได้เยอะขึ้น เร่งรัดมากกว่าช่วงที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลไฟเขียวให้โอกาสเรานำเข้ามากขึ้นเดิม นำเข้าจาก SABIC เป็นหลัก ตอนหลังให้นำเข้าจากบริษัทมาเดน (MA’ADEN) ได้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งมาเดน ผลิตฟอสฟอรัสเป็นหลัก ส่วน SABIC ผลิตยูเรียเป็นหลัก จะนำเข้าฟอสฟอรัสกับยูเรียได้มากขึ้น ส่วนโพแทสเซียมหาจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม
ทั้งนี้ โครงการปุ๋ยราคาพิเศษได้ทำมาแล้วรอบหนึ่ง โดยใช้ความร่วมมือระหว่างสมาคมปุ๋ยแห่งประเทศไทยกับกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงพาณิชย์ ปรับราคาปุ๋ยลง จากราคาตลาดกระสอบละ 20-50 บาท จำนวน 4,500,000 กระสอบ และมีอีกทางคือการช่วยสนับสนุนชดเชยราคาปุ๋ยให้กับเกษตรกรซึ่งรอการพิจารณาของฝ่ายต่างๆ ที่ดูแลด้านการเงินการคลังของประเทศอยู่.-สำนักข่าวไทย