กรุงเทพฯ 30 ส.ค.- สมาคมผู้เลี้ยงสุกร ทั้ง 5 ภาค ออกมาเรียกร้องขอให้รัฐบาลจริงจังแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อหมู ที่ขายในราคาต่ำกว่าปกติ โดยสงสัยจะเป็นหมูเถื่อนและเป็นหมูที่เสี่ยงติดเชื้อ โรคระบาด ASF รวมถึงการตรวจจับตู้คอนเทนเนอร์ เบื้องต้น คาดว่าจะมีการลักลอบเนื้อหมูราว 1,000 ตู้ โดยหากยังไม่แก้ปัญหาเสี่ยงผู้เลี้ยงสุกรทยอยปิดตัวลง
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ระบุว่า สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกร 5 ภาค เรียกร้องให้รัฐบาลจริงจังแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน ที่เข้ามาแย่งตลาดผู้เลี้ยงหมูไทย ซึ่งขณะนี้ลักลอบจำนวนมาก ทำให้เกิดการกังวลว่ายังทำให้นำเข้าจากกระทบต่อปริมาณผลผลิตหมูขุนในไตรมาส 4 ปีนี้ หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้จะเกิดความเสียหายต่อการผลิตหมูในประเทศทั้งระบบ
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ระบุว่า ปัจจุบันการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูและชิ้นส่วนหมูเข้ามาในประเทศยังมีต่อเนื่อง และวางขายทำการตลาดอย่างเปิดเผย แต่การตรวจจับยังคงน้อยมาก กระทบต่อผู้เลี้ยงสุกร ซึ่งปัจจุบันกลุ่มผู้เลี้ยงดังกล่าว กำลังจะกลับมาเข้าขุนเลี้ยงใหม่กว่า 1 ล้านตัว หากยังไม่ได้แก้ไขปัญหาดังกล่าว จะทำให้การฟื้นตัวของผู้เลี้ยงสุกรที่เคยล้มหายไปกว่า 1 หมื่นราย จากปัญหาโรคระบาด ASF ฟื้นตัวได้ยาก เนื่องจากเนื้อหมูวางขายในราคาต่ำกว่าราคาหมูไทย เช่น ร้านหมูกะทะ หมูเกาหลีร้อยละ 80-90 ที่มีจัดราคาขายบุฟเฟ่ราคาต่ำมาก โดยหากประชาชนเห็นว่ามีการขายต่ำมาก อาจร้องเรียนไปยังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อตรวจสอบได้
ขณะที่นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี ระบุว่า เท่าที่สมาคมฯตรวจสอบคาดว่ามีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูผ่านตู้คอนเทนเนอร์ราว 1,000 ตู้ ยังประเมินความเสียหายไม่ได้ จึงอยากให้ภาครัฐเข้มงวดการตรวจจับตู้คอนเทนเนอร์ที่มีการสำแดงเท็จ รวมถึงอยากให้รัฐบาลตั้งข้อสังเกตจากการตั้งราคาขายเนื้อหมูที่ต่ำกว่าปกติ เพราะต้นทุนการผลิตหมูของผู้เลี้ยงสูงขึ้นมา ราว 1,000 บาทต่อตัว ทำให้ต้องขายหน้าฟาร์มอยู่ที่ 90-100 บาทต่อกิโลกรัม ราคาหมูหน้าเขียงจะต้องอยู่ที่ 190-200 บาทต่อกิโลกรัม แต่หมูที่ลักลอบมาจะขายอยู่ที่ 130-135 บาทต่อกิโลกรัม เพราะหากปล่อยไว้ผู้เลี้ยงสุกร ที่กำลังฟื้นตัวกลับมา ร้อยละ 10 จากที่ปิดตัวลงจากปัญหาโรค ASF จำนวน 2 แสนราย จะต้องเผชิญทั้งปริมาณส่วนเกินและใช้ไวรัสในระบบที่จะเกิดการระบาดโรค ASF เกิดขึ้นในสิ้นปีนี้
นายสัตวแพทย์ประภาส ภิญโญชีพ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่า ที่ผ่านมากรมฯเข้มงวดในการตรวจจับ โดยใช้การสุ่มตรวจตู้คอนเทนเนอร์ แต่ยังพบว่ามีการลักลอบเนื้อหมู หลังจากนี้ จะหารือกับกรมศุลกากรจะวางแนวทางตรวจตู้คอนเทนเนอร์ อย่างไร เพื่อไม่ให้กระทบสินค้าอื่นด้วย ส่วนร้านอาหารประเภทหมูกะทะ ต้องให้ความเป็นธรรมกับร้านที่นำเข้าเนื้อหมูอย่างถูกต้อง อาจต้องทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบเอกสารการนำเข้าเนื้อหมู .-สำนักข่าวไทย