ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 17 พ.ย.-ผู้นำเขตเศรษฐกิจจีน เดินทางถึงไทย เพื่อร่วมประชุมความร่วมมือเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค พร้อมหารือทวิภาคี ขยายสัมพันธ์หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่จะครบ 10 ปีในปีนี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากากระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยาให้การต้อนรับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมศาสตราจารย์เผิง ลี่หยวน ภริยา ซึ่งเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบินพิเศษของสายการบินแอร์ไชน่า เพื่อร่วมประชุมความร่วมมือเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค ครั้งที่ 29 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา ให้การต้อนรับ โดยมีกองทหารเกียรติยศ กองทัพเรือ ตั้งแถวทำความเคารพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรัฐมนตรีที่มาร่วมให้การต้อนรับประกอบด้วยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมภริยา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และน.ส.รัชดา จาติกวณิช เป็นรัฐมนตรีเกียรติยศ อีกทั้งยังมีคณะบุคคลต่างๆ 109 คนมาร่วมต้อนรับด้วย ขณะที่นายจอห์น ลี คา-ชิว ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง ซึ่งเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่เวลา 10.19 น. ได้รอร่วมคณะต้อนรับนายสี จิ้นผิงเช่นกัน
สำหรับกำหนดการของผู้นำเขตเศรษฐกิจจีน หลังเสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมเอเปคในวันที่ 19 พฤศจิกายน นายสี จิ้นผิง มีกำหนดหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล กำหนดทิศทางความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างไทยกับจีน ซึ่งครบรอบ 10 ปีในปีนี้ เพื่อนำไปสู่โอกาสครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศในปี 2568
ขณะเดียวกันจะหารือแนวทางการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันไทย – จีน เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนยิ่งขึ้น และแนวคิดระเบียงการพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในเบื้องต้น ในโอกาสการเยือนไทยของมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ทั้งสองฝ่ายจะร่วมแสดงความยินดีกับการลงนามเอกสารสำคัญและความตกลงทวิภาคีในด้านต่าง ๆ ด้วย และเลี้ยงรับรองอาหารกลางวัน โดยนายกรัฐมนตรีและภริยาเป็นเจ้าภาพ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายสี จิ้นผิงและภริยา รวมถึงคณะฝ่ายจีนด้วย.-สำนักข่าวไทย