กรุงเทพฯ 23 เม.ย.- กรมชลประทาน ระบุ จ.พังงา เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่กรมทรัพยากรทางทะเลฯ ชี้ว่า โครงการก่อสร้างแก้มลิงเกาะพระทองบุกรุกป่าชายเลน และกรมชลฯ จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน ยืนยันพร้อมดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายสุริยพล นุชอนงค์ ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน กล่าวถึงกรณีที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่า โครงการแก้มลิงเกาะพระทอง ซึ่งก่อสร้างบริเวณตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา บุกรุกที่ป่าชายเลนและป่าสงวน 428 ไร่ ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครอง โดยระบุว่า เบื้องต้นปลัดจังหวัดลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า พื้นที่โครงการไม่น่าจะอยู่ในเขตป่าชายเลน แต่อาจจะทับซ้อนกับเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งจะต้องให้สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพิกัดและแนวเขตการดำเนินโครงการต่อไป
ต่อมาทางจังหวัดทำหนังสือถึงนายอำเภอคุระบุรี แจ้งว่า ได้ประสานไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา ซึ่งได้รับคำตอบว่า โครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน เนื่องจากเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาที่ดิน โดยไม่กระทบต่อการใช้ประโยชน์ร่วมกันของราษฎร
ล่าสุดจังหวัดพังงาจะแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินโครงการแก้มลิงเกาะพระทอง พร้อมอาคารประกอบปริมาณเก็บกัก 1.55 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพิกัดและแนวเขตการดำเนินโครงการดังกล่าวในพื้นที่สาธารณประโยชน์ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) เลขที่ 29897 ว่า มีพื้นที่ทับซ้อนกับเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ หรือเขตพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานอื่นอีกหรือไม่
สำหรับโครงการแก้มลิงเกาะพระทอง โครงการฟื้นฟูหนองน้ำทุ่งอุ่นเนื้อ กรมชลประทาน โดยสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 15 ได้ดำเนินการที่บ้านทุ่งตาบ หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะพระทอง อำเกอคุระบุรี จังหวัดพังงา ด้วยการขุดขยายหนองน้ำเดิมขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เกาะพระทอง หลังได้รับการร้องขอจาก อบต.เกาะพระทอง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณฟื้นฟูโครงการขุดลอกหนองน้ำทุ่งอุ่นเนื้อ ปริมาณเก็บกัก 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และการเกษตรของราษฎรในพื้นที่ ซึ่งทางอำเภอคุระบุรีได้จัดส่งเอกสารหลักฐานโครงการดังกล่าวของ อบต.เกาะพระทอง และสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 15 เพื่อยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน จากการใช้เพื่อสาธารณประโยชน์อย่างหนึ่งเป็นอีกอย่างหนึ่ง มายังสำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา โดยทางสำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา แจ้งว่า โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการปรับปรุงหรือพัฒนาที่ดิน ที่ไม่กระทบต่อการใช้ประโยชน์ร่วมกันของราษฎร และราษฎรสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณประโยชน์ได้ดีกว่าเดิม การดำเนินการตามโครงการลักษณะดังกล่าว จึงไม่จำเป็นต้องขออนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ต่อมาสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 15 ได้ขอให้ อบต.เกาะพระทอง ดำเนินการยืนยันหรืออนุญาตให้กรมชลประทานเข้าดำเนินการก่อสร้างโครงการแก้มลิงเกาะพระทองในพื้นที่สาธารณประโยชน์ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) เลขที่ 29897 ซึ่งทาง อบต.เกาะพระทอง ได้มีหนังสือแจ้งอำเภอคุระบุรี เพื่อขอความเห็นชอบดำเนินโครงการฯ อีกครั้ง ซึ่งสำนักงานที่ดินจังหวัดพังงายังคงให้ความเห็นว่า สามารถดำเนินการโครงการดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน
ทั้งนี้ ยืนยันว่า กรมชลประทานจะเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพร้อมดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย