กรุงเทพฯ 21 เม.ย.- กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งทำฝนรองรับความต้องการใช้น้ำฤดูแล้งในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะการเติมน้ำสู่เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งมีปริมาณน้ำใช้การต่ำกว่า 50% ของความจุอ่าง แต่ต้องใช้ทั้งเพื่ออุปโภค-บริโภค การเกษตร และผลิตกระแสไฟฟ้า ตลอดจนระบายมาใช้ในลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างด้วย
นายสำเริง แสงภู่วงค์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเร่งทำฝนเพื่อเติมน้ำสู่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนภูมิพล จ.ตาก และเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ เพื่อรองรับการใช้น้ำในฤดูแล้งของประชาชนในภาคเหนือ
ล่าสุดเขื่อนภูมิพล มีน้ำ 45 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนสิริกิติ์ มีน้ำ 40 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งปริมาณน้ำใช้การต่ำกว่า 50% ของความจุอ่าง กรมฝนหลวงฯ จึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและวางแผนปฏิบัติการช่วยเหลือในพื้นที่ดังกล่าว โดยจากผลการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงวันที่ 16-19 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ตาก พิษณุโลก และ จ.แพร่ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์อย่างต่อเนื่อง
นายสำเริงกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในด้านการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรปัจจุบัน จากข้อมูลพื้นที่ขอรับบริการฝนหลวง (ประจำวันที่ 16-19 เมษายน 2565) จากทั่วทุกภูมิภาค พบว่ามีจำนวนรวม 31 จังหวัด 71 อำเภอ โดยมีผู้ขอรับบริการฝนหลวง 87 ราย ได้แก่ พื้นที่ภาคเหนือ 15 ราย ภาคกลาง 28 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 ราย ภาคตะวันออก 26 ราย และภาคใต้ 2 ราย ซึ่งจากผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ ตาก พิษณุโลก แพร่ และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง สามารถช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ อ.งาว แม่พระ จ.ลำปาง อ.เมืองแพร่ สูงเม่น ลอง จ.แพร่ อ.สันติสุข จ.น่าน อ.บ้านโป่ง ราชบุรี และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ อ่างเก็บน้ำแม่จางและอ่างเก็บน้ำแม่ขาม จ.ลำปาง อีกด้วย
สำหรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ (20 เม.ย. 2565) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 6 หน่วยฯ ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ตอนบน มีแผนบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร และเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักเขื่อนสิริกิติ์และอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รวมถึงปฏิบัติภารกิจยับยั้งและบรรเทาความรุนแรงของการเกิดพายุลูกเห็บ บริเวณภาคเหนือตอนล่าง สำหรับหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อีก 5 หน่วยฯ ยังคงเฝ้าติดตามสภาพอากาศ รวมถึงสถานการณ์ของพายุลูกเห็บ และปัญหาฝุ่นละออง หมอกควัน-ไฟป่า เพื่อเตรียมพร้อมวางแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทันที
ทั้งนี้ เกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทางเพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account TikTok : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100 .-สำนักข่าวไทย