เตรียมทำ “ลิ่มกระแทกความเค็ม” ช่วงน้ำหนุน 28 มี.ค. – 3 เม.ย. นี้

กรุงเทพฯ 23 มี.ค.- อธิบดีกรมชลประทานเผย เตรีอมพร้อมทำ “ลิ่มกระแทกความเค็ม” ผลักดันน้ำเค็มช่วงน้ำทะเลหนุนสูง 28 มี.ค. – 3 เม.ย. นี้ เพื่อไม่เกิดผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาทั้งลุ่มน้ำเจ้าพระยาและบางปะกง


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า กรมชลประทานจะร่วมกับการประปานครหลวง (กปน.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เฝ้าระวังค่าความเค็มที่สถานีสูบน้ำดิบสำแล อ. เมือง จ. ปทุมธานีช่วงน้ำทะเลหนุนสูงระหว่างวันที่ 28 มี.ค. – 3 เม.ย. นี้โดยเตรียมใช้ปฏิบัติการ “ลิ่มกระแทกความเค็ม” (Water Hammer Operation) เพื่อป้องกันน้ำเค็มรุกจนมีผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาซึ่งจะทำร่วมกับมาตรการบริหารจัดการน้ำอื่นๆ ด้วยคือ การระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลักได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้เหมาะสม ส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ทดน้ำหน้าเขื่อนไว้ซึ่งสามารถระบายลงมาเจือจางความเค็มได้ เช่นเดียวกับการระบายน้ำจากคลองพระยาบรรลือผ่านทางสถานีสูบน้ำพระยาบรรลือและสถานีสูบน้ำสิงหนาท 2 จะดำเนินการให้สอดคล้องกับระดับการขึ้น-ลงของน้ำทะเล ตลอดจนควบคุมการเปิดปิดบานระบายของประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสมุทรปราการตามจังหวะการขึ้นลงของน้ำทะเลเพื่อเร่งระบายน้ำเค็มให้ออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด

ส่วนที่แม่น้ำบางปะกงได้ควบคุมความเค็ม โดยการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำทางตอนบนของลุ่มน้ำบางปะกง-ปราจีนบุรีได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองสียัด ขุนด่านปราการชล นฤบดินทรจินดา คลองระบม คลองพระสทึง และคลองพระปรงให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยจะพิจารณาปรับเพิ่มหรือลดการระบายน้ำให้สอดคล้องตามสถานการณ์เพื่อไม่ให้กระทบต่อการผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ยังควบคุมค่าความเค็มที่จุดสูบน้ำการประปาส่วนภูมิภาค สาขาปราจีนบุรีและประตูระบายน้ำหาดยาง อำเภอศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี ไม่ให้เกิน 1 กรัม/ลิตรเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาและการใช้น้ำของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร


นายประพิศกล่าวต่อว่า กรมชลประทานวางแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อควบคุมค่าความเค็มตลอดฤดูแล้งนี้ ร่วมกับสำนักการระบายน้ำ (กทม.) การประปานครหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพิจารณาจากการคาดการณ์ระดับน้ำทะเลหนุนของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนให้มากที่สุด

สำหรับปฏิบัติการ “ลิ่มกระแทกความเค็ม” (Water Hammer Operation) เป็นโมเดลในการไล่ลิ่มความเค็มน้ำทะเลที่รุกเข้าแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำดิบสำหรับการผลิตน้ำประปาที่สถานีสูบน้ำสำแล จังหวัดปทุมธานีซึ่งดำเนินการในฤดูแล้งปี 2562-2563 ซึ่งน้ำต้นทุนน้อย จึงได้ประสานกับกปน. ลดอัตราการสูบน้ำดิบที่สถานีสำแล 2 ชั่วโมงในช่วงน้ำไหลลงเพื่อให้น้ำจืดที่ระบายมาจากตอนบนมีปริมาณมากพอที่จะผลักดันลิ่มความเค็มลงไปได้ เพื่อควบคุมค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานีสูบน้ำดิบสำแลไม่ให้เกินค่ามาตรฐานการผลิตน้ำประปาที่ค่าความเค็มไม่เกิน 0.50 กรัม /ลิตร

ผลการประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับสถานการณ์น้ำทะเลหนุนครั้งนี้ กทม. จะติดตามสถานการณ์น้ำขึ้น – น้ำลงของแม่น้ำเจ้าพระยาในกทม. รวมถึงตรวจวัดค่าความเค็มของน้ำในแนวริมแม่น้ำเป็นประจำทุกวัน หากมีค่าความเค็มเกินมาตรฐานจะทำการปิดประตูระบายน้ำแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเค็มเข้าไปในพื้นที่


นอกจากนี้กทม. จะจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความแข็งแรงของเขื่อนตามแนวริมแม่น้ำทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมทั้งเฝ้าระวังจุดแนวฟันหลอที่ยังไม่มีการสร้างเขื่อน ซึ่งได้มีการเตรียมพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำ

ส่วนคันกั้นน้ำที่มีระดับต่ำ กทม. จะเรียงกระสอบทรายเสริมความสูงบริเวณที่คาดว่า ระดับน้ำอาจจะเอ่อล้นเข้ามาในพื้นที่ได้เช่น บริเวณทางขึ้น – ลงท่าเรือ หรือสะพาน โดยยกระดับความสูงของแนวกระสอบทรายอยู่ที่ระดับประมาณ +2.30 ม.รทก.ถึง +2.80 ม.รทก. นอกจากนี้ยังได้มีแผนการเตรียมพร้อมเพิ่มเติมโดยการจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำชนิดเคลื่อนที่ สำรองกระสอบทรายที่บรรจุแล้ว และกระสอบเปล่าที่พร้อมบรรจุทราย จัดเตรียม Big Bag ตะกร้าใส่ทรายสำหรับเรียงกระสอบ และพนังกั้นน้ำฉุกเฉิน

กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน กทม. จะสามารถจัดส่งเจ้าหน้าที่เร่งเข้าดำเนินการแก้ไขได้ในทันที ส่วนชุมชนที่อยู่นอกแนวป้องกันน้ำท่วมของกทม . ที่อาจจะได้รับผลกระทบปัญหาแรงคลื่นกระทบกับพื้นบ้านที่เกิดจากเรือวิ่งผ่านไปมาด้วยความเร็ว ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกรมเจ้าท่าในการควบคุมและใช้มาตรการเรื่องการเดินเรือเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับบ้านเรือนของประชาชนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน