ตรัง 14 มี.ค. – เกษตรกรวัย 58 ปี ที่ จ.ตรัง ใช้พื้นที่จำนวน 2 ไร่ติดภูเขา เลี้ยงกวางขายสร้างรายได้เสริม ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ สร้างรายได้กว่า 40,000 บาทต่อเดือน
นายสุพัฒน์ วงศ์อักษร อายุ 58 ปี ใช้ที่ดินติดภูเขาเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง เลี้ยงกวางพันธุ์ลูซ่า ทั้งหมด 31 ตัว โดยทำรั้วกั้นเป็นแนวยาว เพื่อให้กวางได้วิ่งเล่น สร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและโตเร็ว พร้อมปลูกหญ้าเนเปียและหญ้าพลิแคทไว้เป็นอาหารให้กวางในช่วงเช้าและเย็น เสริมด้วยกากปาล์มบดละเอียดและอาหารอื่น ๆ ที่มีในท้องถิ่น ทำให้ประหยัดต้นทุนลงไปได้มาก
ตอนแรกตั้งใจจะเลี้ยงกวางไว้เพื่อการอนุรักษ์ และผลิตลูกกวางป้อนให้กับศูนย์เรียนรู้ต่าง ๆ ที่เข้ามาศึกษาดูงาน แต่ลูกกวางมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับมีร้านอาหาร โรงแรมและงานเลี้ยงต่าง ๆ สนใจสั่งซื้อเพื่อนำไปทำเมนูจานเด็ด จึงขายยกตัว น้ำหนักตั้งแต่ 35-40 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 350 บาท ปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 บาทต่อเดือน และยังต้องสงวนพ่อแม่พันธุ์ไว้ส่วนหนึ่งเพื่อการอนุรักษ์ และเร่งผลิตกวางให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ข้อดีของการเลี้ยงกวาง คือเลี้ยงง่ายกว่าเลี้ยงวัว กินหญ้าทุกชนิด ทนทานต่อโรค โตเร็ว ได้ราคาดีและยังมีตลาดรองรับอีกมาก
ส่วนรสชาติเนื้อกวางกินอร่อยกว่าเนื้อวัว ไม่มีไขมัน เนื้อแน่น เหนียวนุ่ม สะอาด บางคนเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ และบำรุงกำลัง ซึ่งเขากวางอ่อนของกวางตัวผู้ที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป สามารถตัดขายได้กิโลกรัมละ 7,000-8,000 บาท นำไปปรุงเป็นยา สรรพคุณช่วยเพิ่มปริมาณแคลเซียมบำรุงกระดูก บรรเทาอาการอักเสบของกล้ามเนื้อและเอ็น ลดอาการชาตามปลายมือปลายเท้า ลดอาการอ่อนล้าอ่อนเพลีย เพิ่มสมรรถนะของร่างกายนักกีฬา แก้อาการประจำเดือนผิดปกติ และอื่น ๆ อีกทั้งยังมีคนเลี้ยงเพื่อการจำหน่ายน้อย ทำให้มีราคาแพง แต่หากไม่ตัดเขากวางอ่อน ปล่อยให้เขากวางหลุดเองตามธรรมชาติปีละครั้ง ก็ยังสามารถนำไปขายหรือทำเครื่องประดับตกแต่งบ้านได้.-สำนักข่าวไทย