ตรัง 4 มี.ค. – หญิงชาวตรังปลูกกาแฟโรบัสต้าแซมสวนยางพารา เมล็ดสดกิโลกรัมละ 25 บาท เมล็ดตากแห้งกิโลกรัมละ 100 บาท จนกลายเป็นรายได้หลัก รสชาติหอมอร่อย ถูกใจลูกค้า
นางณัฐธยาน์ แท่นมาก และนายทินกฤติ แท่นมาก สองสามีภรรยา พาไปดูพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ชุมชนบ้านทับเขือ ตำบลช่อง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง สร้างขึ้นให้มีลักษณะเป็นผืนป่าอุดมสมบูรณ์ โดยการปลูกพืชแซมสวนยางพารา สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ควบคู่การดูแลรักษาผืนป่า ทำให้มีรายได้เสริมจากการปลูกพืชแซมยางพารา ในลักษณะสวนผสม โดยปลูกทุกอย่างที่กิน เหลือก็ขาย สร้างรายได้เสริมตลอดปี ทั้งเงาะ ลองกอง มังคุด ทุเรียน มะพร้าว มะม่วงจำปาดะ และผักต่างๆ เช่น ผักเหมียง พืชผักเศรษฐกิจพื้นบ้าน โดยเฉพาะกาแฟ จากตอนแรกปลูกเป็นรายได้เสริม จนตอนนี้กลายเป็นรายได้หลัก เนื่องจากมีรสชาติหอมนุ่มจนเป็นที่ถูกใจลูกค้า
นางณัฐธยาน์ บอกว่า เดิมปลูกยางพาราเป็นอาชีพหลักมายาวนาน แต่ขณะนี้ปลูกพืชแบบผสมผสาน โดยเฉพาะกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า สามารถเก็บผลผลิตได้ปีละประมาณ 350 กิโลกรัม แต่ปีนี้เก็บได้ทั้งประมาณ 500 กิโลกรัม หากเป็นเมล็ดสดกิโลกรัมละ 25 บาท แต่ตนจะนำมาตากแห้งแล้วคัดเฉพาะเมล็ดที่สมบูรณ์ ส่งขายได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 100 บาท โดยจะมีคนมารับซื้อถึงที่นำไปขายที่กรุงเทพฯ สร้างแบรนด์กาแฟโรบัสต้า รสชาติของกาแฟมีการทดสอบโดยนักชิม รับรองว่าหอมนุ่ม อร่อยกว่ากาแฟที่ปลูกบริเวณพื้นราบทั่วไป เพราะปลูกบนพื้นที่สูงติดเขตเทือกเขา เหนือระดับน้ำทะเล ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ ชุ่มชื้นตลอดปี ซึ่งกาแฟจะชอบสภาพอากาศชุ่มชื้น อุดมสมบูรณ์ จึงมีรสชาติหอม อร่อย.-สำนักข่าวไทย