เตือนเฝ้าระวังโรคทุเรียนระบาดช่วงต้นปี

กรุงเทพฯ 30 ธ.ค. -กรมวิชาการเกษตรเตือนชาวสวนทุเรียนภาคตะวันออกช่วงเดือนมกราคมเฝ้าระวัง 3 โรครุมทุเรียนระยะพัฒนาผล ย้ำให้หมั่นสำรวจสวนและป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ ให้น้ำใส่ปุ๋ยให้เพียงพอ พร้อมใช้เชือกโยงกิ่งและผลเพื่อป้องกันผลร่วงและลำต้นหักโค่น


นายศรุต สุทธิอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืชเปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคมทุเรียนในภาคตะวันออกจะอยู่ในช่วงระยะพัฒนาของผล ซึ่งโรคทุเรียนที่พบการระบาดในช่วงเดือนมกราคมมีหลายโรคที่สำคัญเช่น โรครากเน่าและโคนเน่า โรคราแป้ง และโรคใบจุดใบไหม้จึงขอให้เกษตรกรหมั่นสำรวจสวนอย่างสม่ำเสมอ 

ทั้งนี้หากพบการระบาดของโรครากเน่าและโคนเน่าให้ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรคนำไปทำลายนอกแปลงปลูก แล้วพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช หากพบอาการโรคบนกิ่งหรือที่โคนต้น ถากหรือขูดผิวเปลือกบริเวณที่เป็นโรคออก แล้วทาแผลด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช โดยสามารถใช้ตามคำแนะนำในการป้องกันกำจัดโรครากเน่าและโคนเน่า เช่น ฟอสอีทิล-อะลูมิเนียม 80% WP อัตรา 30-40 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ เมทาแลกซิล  25% WP อัตรา 30-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร


ส่วนโรคใบจุด ใบไหม้ พบได้ทั้งในช่วงฤดูฝนและฤดูแล้ง แต่จะพบมากในช่วงฤดูแล้งหากพบอาการของโรคให้พ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืช อะซอกซีสโตรบิน  25% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร

นอกจากนี้ในช่วงที่อากาศแห้งแล้งและเย็นอาจพบการระบาดของโรคราแป้ง  ให้พ่นสารป้องกันกำจัดโรคพืช ไพราโซฟอส 29.4% W/VEC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร

สำหรับการให้น้ำในช่วงเริ่มติดผลได้ 1 สัปดาห์ให้ค่อยๆ เพิ่มปริมาณการให้น้ำขึ้นเรื่อย ๆ และสามารถให้น้ำในอัตราปกติหลังการติดผล 3 สัปดาห์   โดยการให้น้ำต้องให้อย่างเพียงพอและสม่ำเสมอตลอดช่วงพัฒนาการของผลทุเรียน และให้ใส่ปุ๋ยหลังการตัดแต่งผลครั้งสุดท้ายเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของผล โดยใส่ปุ๋ยเมื่อผลมีอายุ 7 สัปดาห์ ร่วมกับการพ่นโพแทสเซียมไนเตรท เพื่อควบคุมการแตกใบอ่อน  ตัดแต่งผลที่มีพัฒนาการผิดปกติ มีขนาดเล็ก หนามแดง หรือมีโรคแมลงเข้าทำลายให้ตัดทิ้ง  และควรมีการโยงกิ่งและผลทุเรียนเพื่อป้องกันการการหักโค่นของลำต้นและผลร่วง 


อย่างไรก็ตาม วิธีการที่ได้ผลที่สุดในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช คือ การใช้วิธีแบบผสมผสาน เช่น การทำเขตกรรม ใช้พันธุ์ต้านทานเพื่อลดการเกิดโรค บำรุงดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของพืช กำจัดวัชพืช ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง กำจัดส่วนที่เป็นโรค เพื่อลดประชากรของเชื้อสาเหตุ  

นายศรุตกล่าวย้ำว่า ปัญหาการผลิตทุเรียนที่สำคัญของชาวสวนทั้งภาคตะวันออกและภาคใต้คือการระบาดของโรคทุเรียนซึ่งในรอบ 12 เดือนซึ่งมีการระบาดแตกต่างกันตามระยะการเจริญของทุเรียนและสภาพอากาศ โดยเกษตรกรจะใช้สารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืชเป็นจำนวนมากทั้งได้ผลและไม่ได้ผลขึ้นอยู่กับความเข้าใจในการปฏิบัติดูแลของเกษตรกรแต่ละราย เนื่องจากการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากต้องรู้จักชนิดของโรคพืชแล้ว ระยะการเจริญเติบโตของพืชก็มีความจำเป็นที่ต้องนำพิจารณาด้วยเช่นกัน เพื่อพิจารณาเลือกชนิดของสารป้องกันกำจัดโรคพืชให้เหมาะสม ใช้กับเชื้อให้ถูกชนิด ถูกประเภท และถูกวิธี  โดยอัตราการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชต้องเป็นไปตามคำแนะนำบนฉลาก.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ