สุราษฎร์ธานี 25 พ.ย. – รองโฆษกสทนช. ระบุ ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ กอนช. คาดว่า หลายพื้นที่ในภาคใต้ฝั่งตะวันออกเสี่ยงเกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องมาหลายวัน ทั้งยังจะมีฝนระลอกใหม่ซึ่งตกซ้ำในบริเวณเดิม ขอประชาชนอย่านิ่งนอนใจ ยกของขึ้นที่สูงและเตรียมการอพยพ หากมีความจำเป็น
นายฐนโรจน์ วรรัฐประเสริฐ รองโฆษกสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังน้ำหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำล้นตลิ่งเนื่องจากฝนตกหนักมาหลายวัน แล้วยังคงตกต่อเนื่องระหว่างวันที่ 26-30 พ.ย. เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง รวมถึงมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคใต้ซึ่งฝนจะตกซ้ำในพื้นที่ที่ตกอยู่ในระยะนี้
จากการตรวจวัดปริมาณฝนตกสะสมสูงสุดรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 10.00 น. วันนี้ (25 พ.ย.) พื้นที่ที่ตกเกินกว่า 100 มม. ได้แก่ อ.ละแม จ.ชุมพร 172 มม. อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร 118 มม. อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี 143 มม. อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช 120 มม. แม้หลายพื้นที่ปริมาณฝนสะสมจะไม่ถึง 100 มม. แต่จำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดด้วยเพราะตกต่อเนื่อง 3-7 วันที่ผ่านมาจนดินชุ่มน้ำ รวมทั้งหลายพื้นที่มีระบบระบายน้ำไม่ดีเช่น ดังนั้น กอนช. จึงแจ้งเตือนดังนี้
- พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังน้ำหลาก-ดินถล่มได้แก่ จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง ตรัง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
- พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีอาจล้นจนส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี กระบี่ ระนอง ภูเก็ต ตรัง และนราธิวาส
- พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณคลองบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คลองชุมพร อำเภอเมืองชุมพร คลองหลังสวน อำเภอหลังสวน คลองสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพรคลองอิปัน อำเภอพระแสง แม่น้ำตาปี อำเภอเวียงสระ อำเภอพระแสง อำเภอพุนพิน และอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี คลองท่าดี อำเภอลานสกา อำเภอพระพรหม และอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ทะเลสาบสงขลา อำเภอสิงหนคร และคลองอู่ตะเภาอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา แม่น้ำปัตตานี อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา และอำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี แม่น้ำโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอตากใบ คลองตันหยงมัส อำเภอระแงะ อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณปากอ่าวเนื่องจากจะมีระดับน้ำทะเลหนุนยกตัวสูงกว่าปกติในช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 0.5 – 1.0 เมตร
ปัจจุบัน หลายพื้นที่มีระบบระบายน้ำไม่ดี รวมทั้งภาวะน้ำทะเลหนุนสูงทำให้ระบายน้ำได้ช้า พื้นที่ที่มีน้ำล้นตลิ่งแล้วได้แก่ จ.ชุมพร บริเวณคลองหลังสวน อ.หลังสวน ซึ่งระดับน้ำมีแนวโน้ม เพิ่มสูงขึ้น จ.สุราษฎร์ธานี บริเวณแม่น้ำตาปี อ.เวียงสระ อ. ท่าชนะ และอ.พุนพินซึ่งอาจล้นตลิ่งต่อไป บริเวณคลองอิปัน อ.พระแสง
ขณะนี้ได้นำผลคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน วันที่ 25 พ.ย. เวลา 7.00 น. –26 พ.ย. เวลา 7.00น. ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช (9 อำเภอ 14ตำบล) พัทลุง (1อำเภอ 1 ตำบล) ชุมพร (5 อำเภอ 11ตำบล) ระนอง (1 อำเภอ 1 ตำบล) และสุราษฎร์ธานี (1 อำเภอ 2ตำบล) แจ้งต่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยภาคใต้เพื่อเตือนพื้นที่เสี่ยงแล้ว ขอให้ประชาชนอย่านิ่งนอนใจ ต้องเฝ้าระวังและเตรียมรับสถานการณ์ โดยยกของขึ้นที่สูงและพร้อมอพยพ หากมีความจำเป็น.- สำนักข่าวไทย