จีนขึ้นทะเบียนเพิ่มโรงสีที่ส่งออกข้าวไทย 46 ราย

กรุงเทพฯ 25 พ.ย. – อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเผยข่าวดี จีนประกาศขึ้นทะเบียนเพิ่มโรงสีผู้ผลิตผู้ผลิตและแปรรูปข้าวเพิ่มอีก 46 ราย จึงรวมผู้ผลิตผ่านขึ้นทะเบียนส่งออกข้าวไปจีนเป็น 93 ราย ส่วนยอดการส่งออกข้าวไปจีนรอบ 10 เดือน กว่า 400,000ตัน ทำรายได้เข้าประเทศเกือบ 7,000ล้านบาท


นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่งแจ้งว่า สำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) ประกาศขึ้นทะเบียนผู้ผลิตและแปรรูปข้าวไทยเพิ่มอีก 46 ราย ซึ่งเป็นไปตามมาตรการของจีนซึ่งกำหนดว่า โดยผู้ส่งออกข้าวไปจีนทุกรายต้องส่งออกข้าวที่ผลิตโดยผู้ผลิตที่มีรายชื่อได้รับการขึ้นทะเบียนจากจีนแล้วเท่านั้น ซึ่งจีนได้ส่ง “มาตรฐานการขึ้นทะเบียน” ให้กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้ตรวจประเมินผู้ผลิตข้าวเบื้องต้นก่อนเสนอรายชื่อให้จีนพิจารณาส่งคณะเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจประเมินที่ไทย โดยในปี 2559 กรมวิชาการเกษตรได้ส่งรายชื่อผู้ผลิตข้าวของไทยให้จีนเข้ามาตรวจประเมินชุดที่ 1 จำนวน 60 ราย   ซึ่งผ่านการตรวจประเมินได้รับการขึ้นทะเบียนกับจีนรวมจำนวนทั้งสิ้น 49 ราย


หลังจากนั้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2560 กรมวิชาการเกษตรได้เสนอรายชื่อผู้ผลิตข้าวของไทยชุดที่ 2 จำนวน 46 รายให้จีนส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจประเมิน แต่เนื่องจากจีนเกิดการปรับปรุงโครงสร้างภายในองค์กรใหม่จึงยังไม่พร้อมส่งคณะเจ้าหน้าที่มาตรวจประเมินที่ไทย ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้พยายามผลักดันในทุกช่องทางให้จีนเพิ่มจำนวนผู้ผลิตข้าวที่ผ่านการขึ้นทะเบียนจากจีนเพิ่มเติมจากเดิมเพื่อสร้างโอกาสให้กับผู้ส่งออกข้าวของไทย โดยได้จัดส่งรายชื่อผู้ผลิตชุดที่ 2 จำนวน 46 รายดังกล่าวกลับไปให้จีนพิจารณาอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2562  


ต่อมา หน่วยงาน GACC ของจีนแจ้งขอสุ่มตรวจประเมินผู้ผลิตและแปรรูปข้าวชุดที่ 2 ของไทยจำนวน 5 รายเพื่อเป็นตัวแทนการตรวจประเมินผ่านทางช่องทางวีดิโอ คอนเฟอเรนซ์  โดยการสุ่มตรวจจะเน้นมาตรการความปลอดภัยอาหาร  ศัตรูพืช  และมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 ตามคู่มือของ FAO และ WHO ซึ่งผ่านการพิจารณาแล้วส่งผลให้ในรอบ 2 นี้มีผู้ผลิตและแปรรูปข้าวที่สามารถส่งออกไปจีนได้รวมทั้งหมด 46 ราย โดยขณะนี้จีนขอให้กรมวิชาการเกษตรจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ผลิตและแปรรูปข้าวของไทยให้เหลือเพียงบัญชีรายชื่อเดียวโดยนำรายชื่อผู้ผลิตและแปรรูปข้าวที่ผ่านการขึ้นทะเบียนในรอบแรกจำนวน 49 ราย กับชุดที่ 2 จำนวน 46 ราย มาผนวกรวมกัน แต่มีบริษัทผู้ผลิตและแปรรูปข้าวในชุดแรก 2 รายได้ย้ายที่ตั้งโรงงานทำให้พ้นสภาพการขึ้นทะเบียนจึงเหลือบัญชีรายชื่อผู้ผลิตและแปรรูปข้าวที่ผ่านการขึ้นทะเบียนส่งออกข้าวไปจีนทั้ง 2 ชุดดังกล่าวรวมจำนวนทั้งสิ้น 93 ราย


นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรขอย้ำเตือนผู้ส่งออกด้วยว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยและทั่วโลกในขณะนี้จีนจึงให้ความสำคัญการตรวจสินค้านำเข้าอย่างเข้มข้นทั้งเรื่อง การปฏิบัติตามพิธีสารส่งออกข้าวไทยไปจีน  ศัตรูพืช  ความปลอดภัยทางด้านอาหาร และการป้องกันการปนปื้อนเชื้อโควิด-19 จึงขอให้ผู้ส่งออกของไทยให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าวอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระงับการนำเข้าด้วย  โดยในช่วงเดือนมกราคม -ตุลาคม 2564 ไทยส่งออกข้าวไปจีนปริมาณรวม 430,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 7,000 ล้านบาท ซึ่งประเทศที่จีนนำเข้าข้าว 3 อันดับแรกคืออินเดีย  เวียดนาม  และไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย