กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – รมว.เกษตรฯ เปิดตัวความร่วมมือ 36 หน่วยงานรัฐ-เอกชน ลงนาม MOU ผลักดันกาแฟไทยสู่พืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง เน้นพัฒนาคุณภาพ ลดการนำเข้า และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้เกษตรกร
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อส่งเสริมการผลิตกาแฟคุณภาพ การวิจัย และพัฒนาตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืน ร่วมกับ 36 หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันกาแฟให้เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ ลดการนำเข้า และเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรไทย
รมว.เกษตรฯ ระบุว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมกาแฟไทยกำลังเผชิญกับทั้งโอกาสและความท้าทาย โดยเฉพาะการผลิตในประเทศที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งนำไปสู่การพึ่งพาการนำเข้า ในขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคมีแนวโน้มต้องการกาแฟสดและกาแฟพิเศษเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดกาแฟในประเทศเติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 3% โดยในปี 2565/66 มีการใช้เมล็ดกาแฟดิบในภาคอุตสาหกรรมถึง 93,551 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 80,691 ตัน ในปี 2562/63


ความร่วมมือครั้งนี้จึงถือเป็นการบูรณาการจากทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับกาแฟไทยในทุกมิติ ทั้งด้านคุณภาพ มาตรฐาน การเพิ่มมูลค่า การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนการสร้างระบบตลาดที่โปร่งใสและการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ภายใต้กรอบ MOU จะมีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อกำกับและติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด พร้อมตั้งเป้าให้เกษตรกรกว่า 12,000 ครัวเรือน เข้าสู่ระบบการผลิตกาแฟคุณภาพภายใน 3 ปี เริ่มนำร่องในพื้นที่ 1,000 ไร่ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเกษตรกรรุ่นใหม่และยุวเกษตรกรในการพัฒนาสู่ตลาดระดับสากล
ศ.ดร.นฤมล ย้ำว่า การส่งเสริมกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจจะช่วยให้เกษตรกรมีทางเลือกในการปรับเปลี่ยนจากพืชที่มีปริมาณล้นตลาด มาสู่พืชที่ตลาดต้องการอย่างแท้จริง พร้อมขับเคลื่อนสู่ระบบเกษตรมูลค่าสูง ลดการนำเข้า และสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศในระยะยาว. -512-สำนักข่าวไทย