กรุงเทพฯ 27 มี.ค. – กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรเปิดตัวระบบขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเกษตร (Agri Service Provider) ผ่านระบบออนไลน์ โดยเป็นการพัฒนา “เครือข่ายบริการเครื่องจักรกลทางการเกษตรร่วมกันของชุมชน” ให้เกิดระบบ Sharing Economy ในท้องถิ่น
นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการเปิดตัวระบบขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเกษตร (Agri Service Provider) โดยกล่าวว่า รัฐบาลมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub) เน้นการพัฒนาเกษตรกรให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยมุ่งสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดการขับเคลื่อนผ่านกลไก การยกระดับสินค้าเกษตรสู่การเพิ่มรายได้ และการเสริมแกร่งให้กับเกษตรกรและคนในภาคเกษตร สอดคล้องกับแนวโน้มของปริมาณการใช้บริการทางการเกษตรผ่านเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตรปี 2567 สาขาบริการทางการเกษตร มีแนวโน้มของปริมาณการใช้บริการทางการเกษตร ผ่านเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ร้อยละ 0.3 – 1.3 จากเหตุปัจจัยข้อจำกัด คือ แรงงาน เวลา ทุน ดังนั้น การลงทุนซื้อเครื่องจักรกล หรือเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ของเกษตรกรรายย่อยจะมีจุดคุ้มทุนที่ใช้ระยะเวลายาวนาน รวมถึงภาวะขาดแคลนแรงงาน และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งกฎระเบียบมาตรฐานสินค้า ที่ต้องยกระดับกระบวนการผลิตเป็นเกษตรแม่นยำ Precision Farming รวมถึงแนวโน้มตลาดที่ทำให้ความต้องการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การวางแนวทางการบริหารจัดการเศรษฐกิจแบ่งปันทรัพยากร (Sharing Economy) จะได้รับการตอบสนองเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ทำหน้าที่นายทะเบียน การขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร ที่เป็นรากฐานสำคัญในการส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากภาครัฐ ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร พัฒนา “เครือข่ายบริการเครื่องจักรกลทางการเกษตรร่วมกันของชุมชน” ให้เกิดระบบ Sharing Economy ในท้องถิ่น และได้ดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเกี่ยวกับการประกอบกิจการในด้านการเกษตร พ.ศ. 2567 เพื่อให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลผู้ให้บริการทางการเกษตรประเภทต่างๆ เช่น ผู้ให้บริการเครื่องจักรกลทางการเกษตร โดรนเพื่อการเกษตร และบริการระบบอัตโนมัติ บริการเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น เพื่อวางรากฐานการจัดระเบียบผู้ให้บริการทางการเกษตร เป็นประโยชน์แก่ทั้ง เกษตรกร และผู้ให้บริการทางการเกษตร การเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่ต้องลงทุนด้วยตนเอง จึงเป็นลดภาระการลงทุนซ้ำซ้อนและชั่วโมงการทำงานต่ำของเครื่องจักรกลการเกษตร รวมถึงภาครัฐจะมีฐานข้อมูลผู้ประกอบกิจการในด้านการเกษตร และเป็นจุดเริ่มต้นในก้าวสำคัญในการจัดระเบียบและพัฒนาภาคเกษตรกรรม ให้เกิดระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโต ทั้งผู้ให้บริการและผู้รับบริการ เกษตรกรจะมีทางเลือกในการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ ในราคาที่เป็นธรรม ขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการก็มีโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างรายได้ที่มั่นคง
สำหรับคุณสมบัติผู้จดแจ้ง เป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือ ผู้ประกอบการ ที่มีเครื่องจักรกลทางการเกษตรไว้ในครอบครอง และมีความประสงค์จะให้บริการ สามารถจดแจ้งผ่านออนไลน์ ได้ที่ระบบขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการทางการเกษตร (Agri Service Provider) และยื่นแบบได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งใกล้บ้านท่าน โดยจะแบ่งงานบริการเป็นหมวดหมู่ เช่น ก่อนการผลิต (บริการปรับหน้าดิน ยกร่อง ขุดร่องน้ำ) ระหว่างการผลิต (บริการโดรนเพื่อการเกษตร) หลังการผลิต (บริการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว/พืชไร่, นักคัด/นักตัดผลไม้, ขนส่งผลผลิต) งานบริการ (ระบบน้ำอัตโนมัติ) โดยผู้ให้ข้อมูลต้องไม่แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ และยินยอมการให้ข้อมูลกับภาครัฐ เพื่อนำไปพัฒนาระบบ. -512 - สำนักข่าวไทย