จันทบุรี 19 มี.ค. – แกนนำเครือข่ายประชาชนจาก 19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเตรียมยกระดับเรียกร้องการแก้ไขปัญหา เหตุรัฐบาลไม่รับหนังสือทวงถาม โดยจะกลับมาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะปักหลักยืดเยื้อ จนกว่าจะเห็นแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
นายธีระ วงษ์เจริญ อดีตรองประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติและอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เครือข่ายประชาชนจาก 19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของปลาหมอคางดำกำลังพิจารณายกระดับการเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา หลังจากไม่มีผู้แทนรัฐบาลรับหนังสือทวงถามจากกลุ่มผู้เดือดร้อน
นายธีระระบุว่า ขณะนี้การระบาดของปลาหมอคางดำทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่กรมประมงกลับยืนยันว่า ความรุนแรงของการระบาดลดลง ตลอดจนคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้รายงานผลว่า ไม่ปรากฏพยานและ หลักฐานใด พี่พิสูจน์ได้ว่าการแพร่ระบาดเกิดจากแหล่งใด ซึ่งเป็นท่าทีที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นต้นเหตุของการระบาด รวมถึงเป็นการเอาใจรัฐบาล มากกว่าเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง อีกทั้งข้อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบปัญหาดังกล่าวก็ไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาล
สำหรับข้อเสนอในการตั้งองค์กรตรวจสอบต้องเป็นอิสระนั้น เห็นว่า ต้องไม่ใช่การตั้งหน่วยงานของรัฐบาลขึ้นมาตรวจสอบกันเอง แต่ควรประกอบด้วยตัวแทนจาก 4 ภาคส่วน ได้แก่ 1) ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง 2) กรมประมงในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง 3) ตัวแทนเกษตรกรจาก 19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งต้องมีสัดส่วนมากกว่าหน่วยงานภาครัฐเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง และ 4) นักวิชาการอิสระ รวมถึงภาคประชาสังคมที่เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว
นายธีระยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มเกษตรกรอาจเกิดขึ้นหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น หากยังไม่มีความคืบหน้า การชุมนุมเพื่อกดดันรัฐบาลอาจเกิดขึ้น ไม่สามารถจะรอช้าได้เพราะจะทำให้ปัญหาการระบาดรุนแรงมากขึ้น กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล หากรัฐบาลยังเพิกเฉย สุดท้ายต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการเยียวยา ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ที่สำคัญจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของคนไทยทั้งประเทศ. 512 – สำนักข่าวไทย