จันทบุรี 13 มี.ค. – รมว.เกษตรฯ ติดตามโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำวังโตนด จังหวัดจันทบุรี เผยเตรียมหารือกับ รมว.ทส. เพิ่มเติม เพื่อขอใช้พื้นที่สร้างอ่างเก็บน้ำตามโครงการที่วางไว้ หวังดันให้สำเร็จเพื่อกักเก็บน้ำให้เกษตรกรไว้ใช้
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองจันทบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (คลองภักดีรำไพ) ซึ่งเป็นโครงการที่มีศักยภาพในการควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ Z.57 ไม่ให้เกิน 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งช่วยลดปริมาณน้ำจากคลองภักดีรำไพ เทือกเขาสระบาป ตำบลพลับพลา ตำบลคลองนารายณ์ และตำบลหนองบัว ไม่ให้น้ำไหลเข้าเขตเศรษฐกิจตัวเมืองจันทบุรีด้วยการระบายน้ำออกสู่ทะเล อีกทั้งสามารถเก็บกักน้ำสำหรับใช้ประโยชน์ในฤดูแล้ง ประมาณ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งรองรับการใช้อุปโภค-บริโภคของชาวจันทบุรี และครอบคลุมพื้นที่ทำการเกษตรในฤดูแล้งได้กว่า 5,000 ไร่
ส่วนอีกโครงการด้านการชลประทานที่มาติดตามคือ โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำวังโตนด ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่เพื่อกักเก็บน้ำให้แก่ชาวจังหวัดจันทบุรีมากขึ้น เพราะอาชีพหลักของที่นี่คือ อาชีพเกษตรกร หากมีแหล่งน้ำเพียงพอก็จะสามารถช่วยภาคเกษตรได้ ก่อนหน้านี้ได้หารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้วว่า เราอยากจะทำโครงการนี้ให้สำเร็จ แต่พื้นที่ที่ขออนุญาตไปจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับอนุญาตน้อยกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้อยู่มาก เพราะได้มาประมาณ 26% จากที่ขอไปจึงจะต้องไปหารืออีกครั้งหนึ่ง ไม่เช่นนั้น พื้นที่น้อยแบบนี้สร้างไปก็จะไม่เกิดประโยชน์


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรของจังหวัดจันทบุรีในทุกมิติ เพื่อยกระดับรายได้ และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับเกษตรกร ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือการแก้ไขปัญหาด้านการส่งออกผลไม้ของไทย โดยทางจีนมีท่าทีพึงพอใจกับการปรับใช้มาตรการดูแลผลไม้ส่งออกของไทย โดยหลังจากนี้จะมีการเจรจากับทางการจีนเพิ่มเติม เพื่อขอให้ช่วยปลดล็อกการขนส่งผลไม้ทุกชิปเม้นของประเทศไทย อันเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าให้กับเกษตรกร อีกทั้ง กระทรวงเกษตรฯ ได้วางแผนจัดทำโรงงานแปรูปยางพาราของจังหวัดจันทบุรี เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรในพื้นที่ให้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศ
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งให้กระทรวงเกษตรฯ ดูแลคุณภาพผลไม้ไทยให้มีมาตรฐาน มีความปลอดภัย รวมถึงฝากกระทรวงพาณิชย์ช่วยจัดหาตลาดรองรับผลไม้ที่กำลังจะออกสู่ตลาด เพื่อป้องกันสินค้าล้นตลาด และราคาตกต่ำในช่วงฤดูกาลนี้ อีกทั้งคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หามาตรการแก้ไขปัญหากุ้งทะเลของไทย ซึ่งจะนำโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งมาดำเนินการที่จังหวัดจันทบุรีเพิ่มเติม
ส่วนนายอิทธิ ศิริลัทยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ไปพบกับผู้ประกอบการทุเรียน เพื่อติดตามเตรียมความพร้อมการตรวจรับรองสาร BY2 ในทุเรียนสด ซึ่งตอนนี้มีมาตรการเข้มข้นในการตรวจสอบทุเรียนก่อนที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน จึงต้องขอความร่วมมือจากชาวสวนทุเรียนด้วย แต่ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวก็คลี่คลายลงไปเยอะแล้ว เพราะเราได้ดำเนินการตามมาตรการที่เราตั้งเอาไว้. -512 – สำนักข่าวไทย