“นฤมล” คาดปี 68 GDP เกษตรขยายตัว 1.8-2.8%

กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – รมว.เกษตรฯ คาดปี 68 GDP ภาคเกษตรขยายตัว 1.8-2.8% เดินหน้าขับเคลื่อน 7 แนวทางพัฒนาภาคเกษตร ฝ่าอุปสรรคและความท้าทายทั้ง Climate Change ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เร่งตัวขึ้น มาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี โดยเฉพาะมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม


ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าในการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศเพื่อฝ่าฝันอุปสรรคและความท้าทายจากหลายปัจจัย โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) รายงานว่า ภาวะเศรษฐกิจการเกษตรปี 2567 หดตัว 1.1% เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยสาขาพืช สาขาประมง และสาขาบริการทางการเกษตรหดตัว ขณะที่สาขาปศุสัตว์ และสาขาป่าไม้ยังคงขยายตัวได้

สำหรับสาขาพืช หดตัวร้อยละ 1.7 เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2566 ต่อเนื่องมาถึงช่วงต้นปี 2567 ทำให้ปริมาณฝนน้อย สภาพอากาศร้อนจัดและแห้งแล้งส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกและการเจริญเติบโตของพืชสำคัญหลายชนิด เกษตรกรบางส่วนงดหรือปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชบางชนิด การเข้าสู่ปรากฏการณ์ลานีญาในเดือนกันยายน 2567 ทำให้ประเทศไทยเผชิญกับมรสุมและมีฝนตกหนัก ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมจำนวนมาก เกิดอุทกภัยและน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรบางส่วนได้รับความเสียหาย


ในปี 2567 ภาคเกษตรไทยต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคทั่วโลกที่เร่งตัวขึ้น การเปลี่ยนแปลงแนวนโยบายของสหรัฐอเมริกา อาจทำให้สงครามทางการค้ากลับมามีความรุนแรงอีกครั้ง ขณะที่ประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าหลักของไทย ยังเผชิญกับปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนกฎกติกาด้านการค้าและการลงทุนของโลก รวมทั้งมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี โดยเฉพาะมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้ประเทศต่างๆ ต้องเร่งปรับตัวเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ IMF คาดว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2568 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 3.2 เท่ากับการเติบโตของปี 2567 เนื่องจากอัตราเงินเพื่อที่คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำและอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ส่งผลให้การใช้จ่ายภายในประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง สะท้อนจากคำจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้นและอัตราการว่างงานที่ลดลง โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ยูโรโซน ญี่ปุ่น จีน และอาเซียน 5 จะขยายตัวร้อยละ 2.2 1.2 1.1 4.5 และ 4.5 ตามลำดับ

ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรของไทยปี 2568 คาดว่า จะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 1.8 – 2.8 โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้


  • ปริมาณฝนที่มีมากขึ้นจากอิทธิพลของสภาวะลานีญาที่คาดว่า จะยังส่งผลถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ส่งผลดีต่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง รวมถึงการเพาะปลูกในรอบถัดไป
  • เศรษฐกิจของไทยขยายตัวได้ดี โดยการบริโภคภายในประเทศ การท่องเที่ยว และการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
  • ความต้องการสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความมั่นคงทางอาหารเนื่องจากเกิดภัยพิบัติในหลายประเทศ รวมถึงปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานจากภาวะสงครามที่อาจเกิดขึ้น
    -การดำเนินนโยบายของภาครัฐเช่น การพัฒนาศักยภาพการผลิตและบริหารจัดการสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิตและการแปรรูปสินค้าเกษตร การยกระดับสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานและมีมูลค่าสูง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบ การพัฒนาระบบโลจิสติกส์สินค้าเกษตร ตลอดจนการพัฒนาระบบประกันภัยและการรองรับความเสี่ยงต่างๆ

ขณะที่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงและสถานการณ์สำคัญที่ต้องติดตามดังนี้

  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาจทำให้สภาพอากาศแปรปรวน เกิดวาตภัยและอุทกภัยที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตรและการเจริญเติบโตของพืช
    -ราคาปัจจัยการผลิตหลายชนิดที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ปุ๋ย สารเคมีกำจัดโรคและแมลง และวัตถุดิบอาหารสัตว์ ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรและความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก
    -เศรษฐกิจโลกมีทิศทางชะลอตัว ส่งผลต่อการค้าและความต้องการสินค้าเกษตรของไทย
    -ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคทั่วโลก อาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย
    -กฎระเบียบและมาตรการกีดกันทางการค้าที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสุขอนามัยของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทยอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันและการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย
    -สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน อาจส่งผลกระทบต่อโซ่อุปทานโลกและการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งการส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ของไทย

ศ.ดร.นฤมล กล่าวอีกว่า เพื่อกระตุ้น GDP ภาคเกษตรในปี 2568 ให้เติบโตจึงกำหนดแนวทางพัฒนาภาคเกษตรในมิติต่างๆ โดยจะต้องใช้ทั้งความรู้ ทักษะ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาสนับสนุนรวม 7 แนวทางดังนี้
1) การรับมือกับภัยธรรมชาติซึ่งต้องมีการวางแผนและดำเนินมาตรการเชิงรุกร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การป้องกัน แก้ไขปัญหา และฟื้นฟู เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ
2) การประกันภัยสินค้าเกษตร โดยการส่งเสริมการประกันภัยพืชผล เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่แน่นอน
3) การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรม เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และต่อยอดสู่เกษตรและบริการมูลค่าสูง
4) การทำการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวทางของ BCG โดยการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น EUDR CBAM และ Carbon Credit การแก้ปัญหา PM 2.5 ส่งเสริมการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปใช้ประโยชน์ และส่งเสริมการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน
5) การยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง การสร้าง Brand หรือ Story ของจังหวัด/อำเภอ โดยเน้นการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ รวมถึงส่งเสริมการสร้างอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
6) การพัฒนาเครื่องมือในการติดตามสถานการณ์ภาคเกษตรในระดับโลก โดยอาศัยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อใช้วิเคราะห์ เตือนภัย และเฝ้าระวังปัจจัยที่ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อการทำการเกษตร
7) การปรับปรุงกฎระเบียบ/กฎหมาย โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการศึกษากฎระเบียบและกฎหมายของประเทศคู่ค้าที่จะมีผลกระทบต่อการค้าสินค้าเกษตรของไทย เพื่อการปรับตัวและเตรียมการให้ทันต่อสถานการณ์

ปัจจุบันไทยมีเนื้อที่ทางการเกษตรรวม 147.73 ล้านไร่ หรือร้อยละ 46.7 ของเนื้อที่ทั้งประเทศ มีประชากรอยู่ในภาคเกษตรกว่า 30 ล้านคน เป็นแรงงานเกษตร 19.72 ล้านคน และมีจำนวนครัวเรือนเกษตรประมาณ 7.9 ล้านครัวเรือน โดยในปี 2568 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเร่งขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรไทย “มีกิน มีใช้ มีรายได้พอเพียง”. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้