เปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตรอบรม “ผู้ปฏิบัติหน้าที่รองนายทะเบียนสหกรณ์”

นครปฐม 12 ธ.ค. – อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เปิดโครงการฝึกอบรม “ผู้ปฏิบัติหน้าที่รองนายทะเบียนสหกรณ์” เน้นความสำคัญของกฎกระทรวงฉบับใหม่ 2 ฉบับ โดยฉบับหนึ่งเกี่ยวกับการกำหนดลักษณะ วัตถุประสงค์ และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการของสหกรณ์แต่ละประเภท อีกฉบับหนึ่งเกี่ยวกับการฝากเงินและลงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน โดยอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เน้นย้ำให้รองนายทะเบียนสหกรณ์ต้องมีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการกำกับดูแลงานสหกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรม หลักสูตร “ผู้ปฏิบัติหน้าที่รองนายทะเบียนสหกรณ์” โดยเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการขับเคลื่อนสหกรณ์ให้เป็นไปตามกฎหมาย และเชื่อมโยงกับกฎกระทรวงฉบับใหม่ 2 ฉบับซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ได้แก่ กฎกระทรวงกำหนดลักษณะ วัตถุประสงค์ และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการของสหกรณ์แต่ละประเภทที่จะรับจดทะเบียน พ.ศ. 2567 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 และกฎกระทรวงการฝากเงินและลงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ. 2567 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว

สำหรับผู้ได้รับแต่งตั้งจากอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ซึ่งเป็นนายทะเบียนสหกรณ์ ให้ทำหน้าที่รองนายทะเบียนสหกรณ์คือ สหกรณ์จังหวัด โดยเป็นตำแหน่งสำคัญเนื่องจากได้รับมอบอำนาจจากนายทะเบียนสหกรณ์ให้ดำเนินการต่างๆ เช่น การจดทะเบียนสหกรณ์ การกำกับดูแล และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของสหกรณ์ การใช้อำนาจดังกล่าวต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายสหกรณ์ และระเบียบข้อบังคับ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ในการกำกับดูแลและส่งเสริมกระบวนการสหกรณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


นายวิศิษฐ์ เน้นย้ำถึงกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ วัตถุประสงค์ และขอบเขตแห่งการดำเนินกิจการของสหกรณ์แต่ละประเภท ซึ่งออกตามความของกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ มาตรา 33/1 ว่า ได้ให้คำนิยามคำว่า “อาชีพหลัก” ซึ่งสร้างความชัดเจนให้กับการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ 7 ประเภท ได้แก่

  1. สหกรณ์การเกษตร 2. สหกรณ์ประมง 3. สหกรณ์นิคม 4. สหกรณ์ร้านค้า 5. สหกรณ์บริการ 6. สหกรณ์ออมทรัพย์ และ 7. สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน

ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากกฎกระทรวงฉบับใหม่นี้คือ จะช่วยให้สหกรณ์แต่ละประเภทมีความชัดเจนในการรับสมัครสมาชิก และการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์มากขึ้น ทำให้ทราบว่า สมาชิกของสหกรณ์คือใคร ประกอบอาชีพอะไร และสหกรณ์ดำเนินธุรกิจในด้านใด สามารถรับการสนับสนุนหรือรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐได้ตรงจุดมากขึ้น ขณะเดียวกันจะช่วยให้กรมส่งเสริมสหกรณ์สามารถส่งเสริมและแนะนำถึงการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ในด้านต่างๆ ได้อย่างถูกต้องตามประเภทของสหกรณ์ ซึ่งจะทำให้สหกรณ์พัฒนาและนำไปสู่สหกรณ์ที่มีความเข็มแข็ง รวมถึงสามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิกและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิกได้

การอบรมครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการเสริมสร้างทักษะแก่รองนายทะเบียนสหกรณ์เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำพาสหกรณ์ไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง. -512 – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย