4 ก.ย. – สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ ส่งผลให้พื้นที่การเกษตร บ้านเรือน ถนนเสียหาย เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจเพื่อเตรียมความช่วยเหลือเบื้องต้น ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ คาดจะมีพายุไต้ฝุ่นเข้าไทย 1-2 ลูก ช่วงฤดูฝนปีนี้ โดยเดือนนี้ฝนจะมากกว่าเดือน ส.ค. พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เฝ้าระวัง 6-7 ก.ย.นี้
วันแรกที่เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี จะระบายน้ำออกจากเขื่อนไปจนถึงวันที่ 7 ก.ย.นี้ โดยจะปล่อยน้ำให้ไหลไปตามลำห้วยหลวงในหลายพื้นที่ ทั้ง อ.เมืองอุดรธานี อ.สร้างคอม ไหลเข้าพื้นที่ อ.โพนพิสัย ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งจะมีประตูระบายน้ำห้วยหลวง เป็นจุดควบคุมน้ำจุดสุดท้าย ซึ่งเขื่อนห้วยหลวงแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ใกล้ลำห้วยหลวงและลำน้ำสาขา เก็บของมีค่าขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักสะสมทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรใน ต.นาหนัง และ ต.ชุมช้าง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ระดับน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร ต้นข้าวถูกน้ำท่วมนานเกิน 3 วัน น้ำท่วมขังระบายไม่ได้ บางจุดท่วมถนน รถยนต์ขนาดเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง
บินสำรวจแม่น้ำยม-แม่น้ำน่าน
เจ้าหน้าที่โครงการชลประทาน จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและบริการวิชาการมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตนครสวรรค์ บินสำรวจเส้นทางและปริมาณน้ำของแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน จาก จ.พิษณุโลก พิจิตร และนครสวรรค์ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือน้ำจากภาคเหนือที่จะไหลลงมาสู่ จ.นครสวรรค์ ช่วง 3-4 วันที่จะถึงนี้ พบว่าแม่น้ำยม แม่น้ำน่าน มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งหลายจุดทั้ง จ.พิษณุโลก พิจิตร และนครสวรรค์ ซึ่งน้ำบางส่วนได้เข้าสู่แก้มลิงตามธรรมชาติ หรือทุ่งนาที่เคยรับน้ำหลายจุด แต่น้ำส่วนหนึ่งยังคงไหลลงสู่นครสวรรค์ เบื้องต้นมีมติจะผันน้ำจากแม่น้ำน่านเข้ากักเก็บในพื้นที่บึงบอระเพ็ด ในวันที่ 15 ก.ย.นี้
น้ำป่าหลากถนนพัง
ส่วนที่ขอนแก่น ปัญหาน้ำป่าไหลหลากกัดเซาะถนน ระหว่างหมู่บ้านสายบ้านเหล่าใหญ่ หมู่ 13 ต.บ้านขาม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ไปยังหมู่บ้านโนน ต.บ้านโนน อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น 2 จุด มวลน้ำพัดพาทรายเข้ามาปกคลุมพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 1,000 ไร่ ทางจังหวัดได้สำรวจและประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน โดยจะชดเชยพื้นที่การเกษตรที่เสียหาย แบ่งเป็นพื้นที่นาข้าว ชดเชยไร่ละ 1,340 บาท พื้นที่ปลูกอ้อยกับมันสำปะหลัง ชดเชยไร่ละ 1,980 บาท โดยชดเชยให้ไม่เกิน 30 ไร่ต่อคน ซึ่งจะจ่ายเงินชดเชยภายในเดือน ก.ย.นี้
สทนช.ชี้อาจมีพายุไต้ฝุ่นเข้าไทย 1-2 ลูก
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. เปิดเผยว่า เดือน ก.ย.นี้จะมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าเดือน ส.ค. โดยพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางจะได้รับผลกระทบมากกว่าพื้นที่อื่น หลังจากนั้นเดือน ต.ค.-พ.ย. ฝนจะไปตกทางภาคใต้แทน
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าฤดูฝนนี้อาจจะมีพายุไต้ฝุ่นเข้าไทย 1-2 ลูก ซึ่งต้องจับตาใกล้ชิด เพราะวันนี้เกิดพายุโซนร้อน “ยางิ” (YAGI) ที่ก่อตัวจากฟิลิปปินส์ บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น มีแนวโน้มเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งที่เวียดนามตอนบน ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จะส่งผลให้ จ.ตราด และจันทบุรี มีฝนตกหนัก ภาคใต้ฝั่งอันดามันจะมีฝนหนักกำลังแรง
ส่วนในวันที่ 6-7 ก.ย. ภาคเหนือตอนบนและภาคอีสานตอนบน จะได้รับอิทธิพลจากหางพายุยางิ จะมีฝนตกหนัก ทั้งนี้ วันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) จะมีการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ตามมาตรา 24 ในภาวะวิกฤติระดับที่ 1 โดยจะเชิญจังหวัดที่อยู่ใต้เขื่อนเจ้าพระยาลงมาเข้าร่วมประชุม เพื่อสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน เพราะหากมีการระบายน้ำ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลกระทบต่อประชาชนท้ายเขื่อน.-สำนักข่าวไทย