อธิบดีปศุสัตว์สั่งสำรวจความเสียหายด้านปศุสัตว์จากน้ำท่วม

น่าน 25 ส.ค. – อธิบดีกรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ประสบอุทกภัย พร้อมสั่งการปศุสัตว์จังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายด้านปศุสัตว์ ชี้แจงขั้นตอนการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง เน้นย้ำให้ดำเนินการด่วนที่สุดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร


นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ร่วมกับนายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินทางไปยังบ้านเจดีย์และบ้านดอนมูล ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมือง จังหวัดน่านเพื่อมอบหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ รวมถึงให้กำลังใจเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย

พร้อมกันนี้อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้สั่งการปศุสัตว์จังหวัดและปศุสัตว์อำเภอในจังหวัดที่ประสบอุทกภัยเข้าเร่งสำรวจความเสียหายด้านปศุสัตว์ทั้งในช่วงเกิดภัยและภายหลังน้ำลด ตลอดจนชี้แจงขั้นตอนการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังซึ่งเน้นย้ำให้ดำเนินการโดยเร็ว นอกจากนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้กำชับให้ส่งเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์เข้าไปดูแลสุขภาพสัตว์ รักษา เฝ้าระวัง และป้องกันโรคระบาดสัตว์ที่อาจเกิดขึ้นได้ภายหลังน้ำท่วม


ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์รายงานข้อมูล ณ วันที่ 24 สค 67 เวลา 18.00 น. เกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ เฉพาะภาคเหนือ มีจังหวัดได้รับผลกระทบ 5 จังหวัดได้แก่ น่าน แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา และแพร่ จำนวน 34 อำเภอ 134 ตำบล 706 หมู่บ้าน เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 34,083 ราย มีสัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม 2,010,267 ตัว แบ่งเป็น โค 41,659 ตัว กระบือ 7,567 ตัว สุกร 14,842 ตัว แพะ/แกะ 1,045 ตัว และ สัตว์ปีก 1,945,154 ตัว รวมถึงแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ 1,022 ไร่

สำหรับการช่วยเหลือเฉพาะหน้าที่ดำเนินการแล้ว มีดังนี้

  1. มอบพืชอาหารสัตว์ 66,515 กิโลกรัม
  2. อพยพสัตว์ 183,826 ตัว
  3. สนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 9,159 ชุด
  4. รักษาสัตว์ 76 ตัว

จากการสำรวจความเสียหายพบว่า มีสัตว์ตาย/สูญหายใน 4 จังหวัดได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน และพะเยา จำนวนรวม 2,876 ตัว ประกอบด้วย โค 29 ตัว กระบือ 14 ตัว สุกร 12 ตัว แพะ 60 ตัว และสัตว์ปีก 2,761 ตัว


ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุโขทัยว่า เตรียมพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยด้านปศุสัตว์ในพื้นที่ โดยกำหนดจุดอพยพสัตว์และผู้ประสานงานช่วยเหลือ 63 แห่งซึ่งกระจายตามท้องที่อำเภอต่างๆ พร้อมทั้งจัดเตรียมคลังเสบียงอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์ จัดทีมหน่วยเคลื่อนที่เร็วระดับจังหวัดและระดับอำเภอ รวม 10 ชุด ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเตรียมพร้อมรับมือสม่ำเสมอ รวมถึงแนะนำให้ดูแลสุขภาพสัตว์ในช่วงน้ำท่วม

สำหรับหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ด้านปศุสัตว์ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 มีรายละเอียดดังนี้

  1. โคอายุน้อยกว่า 6 เดือน อัตราตัวละไม่เกิน 13,000 บาท อายุ 6 เดือนถึงหนึ่งปี 22,000 บาท อายุ 1-2 ปี 29,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 35,000 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 5 ตัว
  2. กระบืออายุน้อยกว่า 6 เดือน อัตราตัวละไม่เกิน 15,000 บาท อายุ 6 เดือน -1 ปี 24,000 บาท อายุมากกว่า 1-2 ปี 32,000 บาท อายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป 39,000 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 5 ตัว
  3. สุกรอายุ 1-30 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 1,500 บาท อายุมากกว่า 30 วันขึ้นไป 3,000 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 10 ตัว
  4. แพะ/แกะ อายุ 1-30 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 1,500 บาท อายุมากกว่า 30 วันขึ้นไป 3,000 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 10 ตัว
  5. ไก่พื้นเมือง/ไก่งวง อายุ 1-21 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 30 บาท อายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 80 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 100 ตัว
  6. ไก่ไข่อายุ 1- 21 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 30 บาท ไม่เกินรายละ 1000 ตัว อายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 100 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 1,000 ตัว
  7. ไก่เนื้ออายุ 1- 21 วัน อัตราไม่เกิน 20 บาท อายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 50 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 1,000 ตัว
  8. เป็ดไข่ อายุ 1- 21 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 30 บาท อายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 100 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 1,000 ตัว
  9. เป็ดเนื้อเป็ด/เทศ อายุ 1-21วัน อัตราตัวละไม่เกิน 30 บาท อายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 80 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 1,000 ตัว
  10. นกกระทา อายุ 1-21 วัน อัตราตัวละไม่เกิน 10 บาท อายุมากกว่า 21 วันขึ้นไป 30 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 1,000 ตัว
  11. นกกระจอกเทศ อัตราตัวละไม่เกิน 2,000 บาท โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 10 ตัว
  12. ห่าน อัตราตัวละไม่เกิน 100 บาท ไม่เกิน โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 300 ตัว
  13. แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ อัตราไม่เกิน 1,980 บาท/ไร่ โดยช่วยเหลือไม่เกินรายละ 30 ไร่

ทั้งนี้เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถติดต่อประสานขอความช่วยเหลือจากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด และศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ (ศปภ.ปศ.) กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ โทร.02-6534553 02-6534444 ต่อ 3315 อีเมล์ disaster@dld.go.th หรือแจ้งข้อมูลในแอพพลิเคชั่น DLD 4.0 เพื่อให้ความช่วยเหลือได้ทันที.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก