น้ำท่วมแล้ว 6 จังหวัด เฝ้าระวังต่อเนื่องถึงสิ้นเดือน ส.ค.

กรุงเทพฯ 22 ส.ค. -“ภูมิธรรม” ห่วงสถานการณ์อุทกภัย เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมแผนบริหารจัดการด่วนที่กรมชลประทานบ่ายนี้ สทนช.ออกประกาศเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงทุกภาคถึง 30 ส.ค. กรมชลประทานแจ้งเตือนลุ่มน้ำยม จะมีน้ำล้นตลิ่งเข้าสู่พื้นที่ลุ่มต่ำในจังหวัดแพร่และสุโขทัยใน 2 วันนี้


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมด่วนเพื่อติดตามแผนบริหารจัดการน้ำเนื่องจากเกิดอุทกภัยแล้ว 6 จังหวัด โดยจะประชุมที่กรมชลประทานช่วงบ่ายวันนี้

ขณะที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานว่า มีน้ำท่วมแล้ว 6 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.เวียงชัย เชียงแสน ป่าแดด เทิง พญาเม็งราย แม่สาย และแม่จัน) จ.พะเยา (อ.เมืองฯ เชียงม่วน เชียงม่าน ปง ดอกคำใต้ ภูซาง และจุน) จ.น่าน (อ.เชียงกลาง และเฉลิมพระเกียรติ) จ.แพร่ (อ.ร้องกวาง) จ. เพชรบูรณ์ (อ.เมือง วังโป่ง และชนแดน) และ จ.อุดรธานี (อ.เมืองฯ ไชยวาน และกู่แก้ว)


ปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุด 24 ชั่วโมงวานนี้ ที่จังหวัดพะเยา สูงถึง 237 มิลลิเมตร ภาคใต้สูงสุดที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 97 มิลลิเมตร ภาคตะวันตกที่จังหวัดราชบุรี 82 มิลลิเมตร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดเลย 74 มิลลิเมตร ภาคตะวันออกที่จังหวัดจันทบุรี 48 มิลลิเมตร และภาคกลางที่จังหวัดชัยนาท 40 มิลลิเมตร

จากปริมาณน้ำฝนสะสมที่สูงในลุ่มน้ำยมโดยเฉพาะจังหวัดแพร่และพะเยา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมสูงขึ้นต่อเนื่อง นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานจึงสั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำหลาก

ทั้งนี้ กรมชลประทานวางแผนจัดจราจรน้ำในลุ่มน้ำยมเพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาจากจังหวัดแพร่ โดยการหน่วงน้ำไว้บริเวณด้านเหนือประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ จากนั้นจะผันน้ำส่วนหนึ่งเข้าคลองยม-น่าน ผ่านทางประตูระบายน้ำคลองหกบาท ก่อนจะระบายลงสู่แม่น้ำยมสายเก่าและแม่น้ำน่านตามลำดับ ส่วนด้านท้ายน้ำจะระบายลงแม่น้ำยมสายหลัก พร้อมแบ่งการระบายน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งซ้ายและขวา เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัยให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาการรับน้ำเข้าทุ่งบางระกำ โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งให้ทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนในพื้นที่ให้รับทราบสถานการณ์อย่างทั่วถึงและต่อเนื่องด้วย


เมื่อช่วงเวลา 18.00 น. วานนี้ (21 ส.ค.) สถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ Y.20 อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ได้เพิ่มขึ้นสูงจนถึงระดับวิกฤต โดยมีน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,390 ลบ.ม./วินาที และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจึงขอให้พื้นที่ตอนล่างในเขตจังหวัดสุโขทัย เตรียมรับสถานการณ์น้ำที่อาจจะล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำในอีก 2 วันข้างหน้านี้

สทนช. ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้จึงได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) รวมถึงการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณพื้นที่ต้นน้ำจากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี ล่าสุดออกประกาศเตือนต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากทุกภาคในช่วงวันที่ 24 – 30 สิงหาคม 2567 ดังนี้

-ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สาย เชียงแสน เวียงแก่น ขุนตาล พญาเม็งราย เวียงชัย เทิง และแม่ลาว) จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอแม่อาย และเชียงดาว) จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ปางมะผ้า ปาย ขุนยวม แม่ลาน้อย แม่สะเรียง และสบเมย) จังหวัดตาก (อำเภอเมืองตาก ท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ และอุ้มผาง) จังหวัดลำปาง (อำเภอวังเหนือ และงาว) จังหวัดพะเยา (อำเภอเมืองพะเยา แม่ใจ ภูซาง ปง เชียงคำ จุน และเชียงม่วน) จังหวัดน่าน (อำเภอเมืองน่าน เฉลิมพระเกียรติ ปัว ท่าวังผา เวียงสา ทุ่งช้าง เชียงกลาง บ่อเกลือ สองแคว และภูเพียง) จังหวัดแพร่ (อำเภอเมืองแพร่ เด่นชัย สอง ลอง และวังชิ้น) จังหวัดสุโขทัย (อำเภอเมืองสุโขทัย ศรีสัชนาลัย ทุ่งเสลี่ยม และศรีสำโรง) จังหวัดอุตรดิตถ์ (อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ลับแล พิชัย ทองแสนขัน และท่าปลา) จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอชาติตระการ นครไทย วังทอง และเนินมะปราง) จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ หล่มเก่า และหล่มสัก)

-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดเลย (อำเภอนาแห้ว เชียงคาน ด่านซ้าย และปากชม) จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย สังคม ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ โพนพิสัย และโพธิ์ตาก) จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอเมืองบึงกาฬ ปากคาด บุ่งคล้า โซ่พิสัย เซกา และบึงโขงหลง) จังหวัดหนองบัวลำภู (อำเภอเมืองหนองบัวลำภู ศรีบุญเรือง และโนนสัง) จังหวัดอุดรธานี (อำเภอเพ็ญ บ้านดุง และหนองหาน) จังหวัดสกลนคร (อำเภอเมืองสกลนคร บ้านม่วง คำตากล้า วานรนิวาส สว่างแดนดิน และพรรณานิคม) จังหวัดนครพนม (อำเภอเมืองนครพนม บ้านแพง ศรีสงคราม ท่าอุเทน นาหว้า โพนสวรรค์ ปลาปาก และธาตุพนม)

-ภาคตะวันตกได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี สังขละบุรี ทองผาภูมิ ศรีสวัสดิ์ ไทรโยค และด่านมะขามเตี้ย) จังหวัดราชบุรี (อำเภอสวนผึ้ง และบ้านคา) จังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน และหนองหญ้าปล้อง) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอหัวหิน ปราณบุรี และบางสะพาน)

-ภาคตะวันออกได้แก่ จังหวัดนครนายก (อำเภอเมืองนครนายก ปากพลี และบ้านนา) จังหวัดปราจีนบุรี (อำเภอเมืองปราจีนบุรี ประจันตคาม นาดี และกบินทร์บุรี) จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี มะขาม ขลุง และแหลมสิงห์) จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด บ่อไร่ เขาสมิง แหลมงอบ คลองใหญ่ และเกาะกูด)

-ภาคใต้ได้แก่ จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง กระบุรี ละอุ่น กะเปอร์ และสุขสำราญ) จังหวัดพังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง และท้ายเหมือง) จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง) จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี คีรีรัฐนิคม พุนพิน พระแสง และเวียงสระ) จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ลานสกา ถ้ำพรรณรา และทุ่งใหญ่) จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง ปะเหลียน นาโยง กันตัง ห้วยยอด รัษฎา และวังวิเศษ) จังหวัดพัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ปากพะยูน กงหรา ศรีนครินทร์ และควนขนุน) จังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล ควนโดน ควนกาหลง ทุ่งหว้า และมะนัง)

พร้อมกันนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี เลย บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม นครพนม มุกดาหาร ยโสธร ศรีษะเกษ สุรินทร์ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด และสุราษฎร์ธานี รวมถึงเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกักที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างเก็บน้ำและส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ

ส่วนแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำได้แก่

  • ลำน้ำงาว (อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย)
  • แม่น้ำสาย (อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย)
  • แม่น้ำอิง (อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย)
  • แม่น้ำน่าน (อำเภอเมืองน่าน เวียงสา เชียงกลาง ภูเพียง และท่าวังผา จังหวัดน่าน)
  • แม่น้ำยม (อำเภอปง เชียงม่วน จังหวัดพะเยา อำเภอเมืองแพร่ สอง และหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ อำเภอเมืองสุโขทัย สวรรคโลก ศรีสำโรง ศรีสัชนาลัย และกงไกรลาส จังหวัดสุโขทัย อำเภอเมืองพิษณุโลก พรหมพิราม และบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก)
  • แม่น้ำแควน้อย (อำเภอนครไทย และวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก)
  • แม่น้ำป่าสัก (อำเภอหล่มสัก และหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์)
  • ลำน้ำก่ำ (อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม)
  • แม่น้ำตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง และบ่อไร่ จังหวัดตราด)
    นอกจากนี้สทนช. ในฐานะผู้แทนของประเทศไทยในคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) จะคอยติดตามสถานการณ์และแจ้งต่อคณะกรรมาธิการฯ ได้ทราบข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเทศสมาชิก MRC จะได้พิจารณาการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเพื่อหลีกเลี่ยงอุทกภัยจากปริมาณน้ำที่ล้นตลิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง ในหลายจังหวัดของประเทศไทยได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีด้วย.512-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน