รู้จักโครงการ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ที่อาจต้องแก้มติครม. ทำโครงการอื่น

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กระทรวงเกษตรฯ อาจต้องถอยการดำเนินโครงการ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ที่ครม. เห็นชอบไปแล้ว เนื่องจากมีทั้งเกษตรกรบางส่วนและพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยให้ดำเนินการ งบประมาณโครงการนี้ 2.9 หมื่นล้านบาท ใช้สนับสนุนค่าปุ๋ยตามสูตรที่กำหนดครึ่งหนึ่งและให้ชาวนาออกครึ่งหนึ่ง โดย “ธรรมนัส” ชี้อาจทบทวนรายละเอียดโครงการ แล้วเลื่อนไปทำในฤดูข้าวนาปีปีหน้า


ที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 มีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ปุ๋ยคนละครึ่ง) “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ประจำฤดูกาลผลิตปี 67/68 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าวเสนอ กรอบวงเงินงบประมาณโครงการ 29,980.1695 ล้านบาท (เบิกจ่ายเท่าที่จ่ายจริง) มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตข้าวให้ชาวนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567- 31 กรกฎาคม 2568 ตั้งเป้าหมายลดต้นทุนการผลิตข้าวของชาวนาได้ 10 % ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 10 % เพื่อให้มีอำนาจในการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเกษตรกรและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งยังได้ปุ๋ยคุณภาพดีที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวและยกระดับคุณภาพข้าวให้สนองความต้องการของตลาด

สำหรับแนวทางการดำเนินโครงการ จะสนับสนุนค่าปุ๋ยส่วนหนึ่งให้เกษตรกร โดยรัฐบาลช่วยครึ่งหนึ่งและชาวนาจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง ในการซื้อปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ในราคาไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ (ไม่เกิน 10,000 บาทต่อครัวเรือน) เป้าหมายเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 4.68 ล้านครัวเรือน ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถสั่งซื้อปุ๋ยและชีวภัณฑ์ได้จากแอปพลิเคชันที่กรมการข้าวและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พัฒนาร่วมกัน


หลังจากครม. มีมติเห็นชอบ เป็นขั้นตอนที่กรมการข้าวจะเชิญชวนผู้ประกอบกิจการผู้ค้าปุ๋ยมาเข้าร่วมโครงการ โดยต้องเป็นการจำหน่ายในราคาปุ๋ยตามสูตรที่กำหนดต่ำกว่าท้องตลาดและจำหน่ายราคาเดียวกันหมด เพื่อแก้ปัญหาชาวนาซื้อปุ๋ยแพง แต่กลับมีเกษตรกรบางส่วนและพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยเนื่องจากต้องการให้ช่วยเหลือชาวนาด้วยการดำเนินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหรือโครง​การ​ “ไร่ละพัน” มากกว่าซึ่งร้อยเอกธรรมนัสได้ชี้แจงหลายครั้งว่า​ เป็น​ละโครงการ​กัน แม้จะมีโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง แต่หากเมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว แล้วข้าวราคาตกต่ำ สามารถจัดทำโครงการไร่ละพันช่วยเหลือชาวนาได้อีกด้วย จนกระทั่งมีการหารือในที่ประชุมครม. วันที่ 9 กรกฎาคมอีกครั้ง

สำหรับปุ๋ยที่จะเข้าร่วมโครงการต้องเป็นปุ๋ยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนหรือมีหนังสือสำคัญรับแจ้งถูกต้องตามพระราชบัญญัติปุ๋ย ส่วนชีวภัณฑ์ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถเลือกรับการสนับสนุนปุ๋ยสำหรับนาข้าวที่ขึ้นทะเบียน เบื้องต้น 13 รายการ ได้แก่ (1) ปุ๋ยสูตร 25-7-14 (2) ปุ๋ยสูตร 20-8-20 (3) ปุ๋ยสูตร 20-10-12 (4) ปุ๋ยสูตร 30-3-3 (5) ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 (6) ปุ๋ยสูตร 18-12-6 (7) ปุ๋ยสูตร 16-8-8 (8) ปุ๋ยสูตร 16-12-8 (9) ปุ๋ยสูตร 16-16-8 (10) ปุ๋ยสูตร 16-20-0 (11) ปุ๋ยสูตร 20-20-0 (12) ปุ๋ยสูตร 15-15-15 (13) ปุ๋ยสูตร 16-16-16 (14) ปุ๋ยสูตร 13-13-24 (15) ปุ๋ยอินทรีย์ที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรม หรือ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์ (16) ชีวภัณฑ์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย

ตามโครงการมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งรัดการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นไปตามคู่มือการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์จะรับสมัครสหกรณ์การเกษตรเป็นจุดกระจายปุ๋ยและชีวภัณฑ์


การจัดหาปุ๋ยนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์แจ้งรายชื่อผู้ประกอบกิจการปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้แก่สหกรณ์การเกษตรคัดเลือก โดยการกำหนดราคาปุ๋ยเป็นตามประกาศของกรมการข้าว ส่วนการส่งมอบปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้สหกรณ์การเกษตร ผู้ประกอบกิจการปุ๋ยและชีวภัณฑ์ต้องส่งมอบ พร้อมรายงานผลการวิเคราะห์ปุ๋ยและชีวภัณฑ์

ขั้นตอนในการที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะเข้าร่วมโครงการ สามารถขอใช้สิทธิ์ตามระบบข้อมูลโครงการปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง ผ่านแอปพลเคชันของธ.ก.ส. ส่วนการจ่ายเงินสมทบค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เกษตรกรต้องชำระเงินสมทบค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ตามที่แจ้งความประสงค์ ขณะที่ธ.ก.ส. โอนจ่ายเงินค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้ตามรายงานที่สหกรณ์การเกษตรจ่ายปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้เกษตรกร

ล่าสุดร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุว่า อาจจะเลื่อนดำเนินการในฤดูกาลเพาะปลูกข้าวนาปีปีหน้า พร้อมยืนยันว่า เป็นโครงการที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวและลดต้นทุนการผลิตข้าว แต่มีอุปสรรคเพราะผู้ค้าปุ๋ยที่สต๊อกปุ๋ยไว้เสียประโยชน์ รวมถึงอาจมีเวลาในการประชาสัมพันธ์ในชาวนาเข้าใจน้อยไป จนเวลาล่วงเลย ชาวนาบางส่วนปลูกข้าวไปแล้ว ดังนั้นจึงมอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการของกระทรวงและกรมการข้าวเพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือชาวนาว่า จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อในปีนี้หรือปีหน้า หากเลื่อนไปเป็นปีนี้ แล้วปีนี้มีมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนชาวนาอย่างไร จากนั้นจะนำเข้าหารือในที่ประชุมครม. วันพรุ่งนี้ซึ่งถ้าโครงการปุ๋ยคนละครึ่งเลื่อนไปดำเนินการปีหน้า จะมีการแก้ไขมติครม. ในการดำเนินโครงการช่วยเหลือสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตามมาตรการที่กระทรวงจะกำหนดใหม่. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก “เดวิด” 1 เดือน คดีทำร้ายหมอ

ภูเก็ต 23 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ภาค 8 กลับคำพิพากษา จำคุก “เดวิด” ทำร้ายร่างกายหมอ 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ชี้เป็นการกระทำร้ายแรง ส่วนจำเลย พบเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว กรณี พญ.ธารดาว หรือ หมอปาย ยื่นฟ้อง นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างในจังหวัดภูเก็ต ในคดีทำร้ายร่างกาย โดยใช้เท้าเตะเข้าที่บริเวณด้านหลังของหมอปาย ขณะนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่บริเวณหน้าบันไดวิลลาหรู ชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.68) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะทนายความคดีดังกล่าว เปิดเผยว่าวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษากลับ ให้นายเดวิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรง จำคุก 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตามคดีนี้ […]

กสทช.สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยา เหตุสัญญาณขัดข้อง

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – สำนักงาน กสทช. สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ จากเหตุสัญญาณขัดข้อง ห้ามคิดค่าบริการช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้งานไม่ได้-ให้เพิ่มดาต้ามากกว่า 10 GB-โทรฟรีมากกว่า 100 นาที ไม่จำกัด ภายใน 24 ชม. แยกเยียวยาลูกค้ารายเดือน-เติมเงิน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้เชิญบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เข้าร่วมประชุมด่วนในวันนี้ โดยสำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้บริษัท ทรูฯ ทบทวนมาตรการเยียวยาชดเชยผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ตขัดข้อง ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากบริษัท ทรูฯ […]

ทีมค้นหาจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหาร่างแรงงานพลัดตกหลุม

23 พ.ค. – ทีมกู้ภัยพบสัญญาณดี คล้ายร่างคนงานที่ตกหลุมเจาะเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ที่ความลึก 11.5 เมตร แต่เกิดดินลั่นก่อน ทำให้ไม่สามารถงมต่อได้ จึงขึ้นมาปรับแผนกันใหม่ พร้อมจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมค้นหาร่างแรงงานที่พลัดตกหลุมลึก 19 เมตร โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดธูป ขอขมาตามความเชื่อ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจอร่างของนายศราวุฒิ คนงานซึ่งถูกดินสไลด์ทับจนพลัดตกลงไปภายในหลุมเจาะเสาเข็มลึก 19 เมตร ของโครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  เยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ทีมค้นหา USAR และกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบบางจุด พบว่าสัญญาณคล้ายร่างกายมนุษย์ ที่ระดับความลึก 11.5 เมตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ทราบ โดยหากตรวจสอบว่า วัตถุหรือสิ่งที่พบคือร่างของมนุษย์จริงเจ้าหน้าที่จะวางแผนทำการเคลื่อนย้าย มีรายงานว่าทีมกู้ภัยที่ห้อยสลิงลงไป ได้หย่อนตัวลงไปในโคลน ความลึกระดับคอแล้ว จากนั้นได้ใช้มือคลำลงไปลักษณะเหมือนโดนเสื้อ หรือ ผ้า คล้ายกับร่างมนุษย์ แต่จังหวะนั้นแผ่นชีทพลายลั่น […]