กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กระทรวงเกษตรฯ อาจต้องถอยการดำเนินโครงการ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ที่ครม. เห็นชอบไปแล้ว เนื่องจากมีทั้งเกษตรกรบางส่วนและพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยให้ดำเนินการ งบประมาณโครงการนี้ 2.9 หมื่นล้านบาท ใช้สนับสนุนค่าปุ๋ยตามสูตรที่กำหนดครึ่งหนึ่งและให้ชาวนาออกครึ่งหนึ่ง โดย “ธรรมนัส” ชี้อาจทบทวนรายละเอียดโครงการ แล้วเลื่อนไปทำในฤดูข้าวนาปีปีหน้า
ที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 มีมติเห็นชอบโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ปุ๋ยคนละครึ่ง) “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ประจำฤดูกาลผลิตปี 67/68 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าวเสนอ กรอบวงเงินงบประมาณโครงการ 29,980.1695 ล้านบาท (เบิกจ่ายเท่าที่จ่ายจริง) มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตข้าวให้ชาวนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567- 31 กรกฎาคม 2568 ตั้งเป้าหมายลดต้นทุนการผลิตข้าวของชาวนาได้ 10 % ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 10 % เพื่อให้มีอำนาจในการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเกษตรกรและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งยังได้ปุ๋ยคุณภาพดีที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวและยกระดับคุณภาพข้าวให้สนองความต้องการของตลาด
สำหรับแนวทางการดำเนินโครงการ จะสนับสนุนค่าปุ๋ยส่วนหนึ่งให้เกษตรกร โดยรัฐบาลช่วยครึ่งหนึ่งและชาวนาจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง ในการซื้อปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ในราคาไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ (ไม่เกิน 10,000 บาทต่อครัวเรือน) เป้าหมายเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 4.68 ล้านครัวเรือน ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถสั่งซื้อปุ๋ยและชีวภัณฑ์ได้จากแอปพลิเคชันที่กรมการข้าวและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พัฒนาร่วมกัน
หลังจากครม. มีมติเห็นชอบ เป็นขั้นตอนที่กรมการข้าวจะเชิญชวนผู้ประกอบกิจการผู้ค้าปุ๋ยมาเข้าร่วมโครงการ โดยต้องเป็นการจำหน่ายในราคาปุ๋ยตามสูตรที่กำหนดต่ำกว่าท้องตลาดและจำหน่ายราคาเดียวกันหมด เพื่อแก้ปัญหาชาวนาซื้อปุ๋ยแพง แต่กลับมีเกษตรกรบางส่วนและพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยเนื่องจากต้องการให้ช่วยเหลือชาวนาด้วยการดำเนินโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหรือโครงการ “ไร่ละพัน” มากกว่าซึ่งร้อยเอกธรรมนัสได้ชี้แจงหลายครั้งว่า เป็นละโครงการกัน แม้จะมีโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง แต่หากเมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว แล้วข้าวราคาตกต่ำ สามารถจัดทำโครงการไร่ละพันช่วยเหลือชาวนาได้อีกด้วย จนกระทั่งมีการหารือในที่ประชุมครม. วันที่ 9 กรกฎาคมอีกครั้ง
สำหรับปุ๋ยที่จะเข้าร่วมโครงการต้องเป็นปุ๋ยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนหรือมีหนังสือสำคัญรับแจ้งถูกต้องตามพระราชบัญญัติปุ๋ย ส่วนชีวภัณฑ์ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถเลือกรับการสนับสนุนปุ๋ยสำหรับนาข้าวที่ขึ้นทะเบียน เบื้องต้น 13 รายการ ได้แก่ (1) ปุ๋ยสูตร 25-7-14 (2) ปุ๋ยสูตร 20-8-20 (3) ปุ๋ยสูตร 20-10-12 (4) ปุ๋ยสูตร 30-3-3 (5) ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 (6) ปุ๋ยสูตร 18-12-6 (7) ปุ๋ยสูตร 16-8-8 (8) ปุ๋ยสูตร 16-12-8 (9) ปุ๋ยสูตร 16-16-8 (10) ปุ๋ยสูตร 16-20-0 (11) ปุ๋ยสูตร 20-20-0 (12) ปุ๋ยสูตร 15-15-15 (13) ปุ๋ยสูตร 16-16-16 (14) ปุ๋ยสูตร 13-13-24 (15) ปุ๋ยอินทรีย์ที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรม หรือ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์ (16) ชีวภัณฑ์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย
ตามโครงการมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งรัดการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นไปตามคู่มือการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์จะรับสมัครสหกรณ์การเกษตรเป็นจุดกระจายปุ๋ยและชีวภัณฑ์
การจัดหาปุ๋ยนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์แจ้งรายชื่อผู้ประกอบกิจการปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้แก่สหกรณ์การเกษตรคัดเลือก โดยการกำหนดราคาปุ๋ยเป็นตามประกาศของกรมการข้าว ส่วนการส่งมอบปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้สหกรณ์การเกษตร ผู้ประกอบกิจการปุ๋ยและชีวภัณฑ์ต้องส่งมอบ พร้อมรายงานผลการวิเคราะห์ปุ๋ยและชีวภัณฑ์
ขั้นตอนในการที่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะเข้าร่วมโครงการ สามารถขอใช้สิทธิ์ตามระบบข้อมูลโครงการปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง ผ่านแอปพลเคชันของธ.ก.ส. ส่วนการจ่ายเงินสมทบค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เกษตรกรต้องชำระเงินสมทบค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ตามที่แจ้งความประสงค์ ขณะที่ธ.ก.ส. โอนจ่ายเงินค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้ตามรายงานที่สหกรณ์การเกษตรจ่ายปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้เกษตรกร
ล่าสุดร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุว่า อาจจะเลื่อนดำเนินการในฤดูกาลเพาะปลูกข้าวนาปีปีหน้า พร้อมยืนยันว่า เป็นโครงการที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวและลดต้นทุนการผลิตข้าว แต่มีอุปสรรคเพราะผู้ค้าปุ๋ยที่สต๊อกปุ๋ยไว้เสียประโยชน์ รวมถึงอาจมีเวลาในการประชาสัมพันธ์ในชาวนาเข้าใจน้อยไป จนเวลาล่วงเลย ชาวนาบางส่วนปลูกข้าวไปแล้ว ดังนั้นจึงมอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการของกระทรวงและกรมการข้าวเพื่อพิจารณาแนวทางช่วยเหลือชาวนาว่า จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อในปีนี้หรือปีหน้า หากเลื่อนไปเป็นปีนี้ แล้วปีนี้มีมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนชาวนาอย่างไร จากนั้นจะนำเข้าหารือในที่ประชุมครม. วันพรุ่งนี้ซึ่งถ้าโครงการปุ๋ยคนละครึ่งเลื่อนไปดำเนินการปีหน้า จะมีการแก้ไขมติครม. ในการดำเนินโครงการช่วยเหลือสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตามมาตรการที่กระทรวงจะกำหนดใหม่. 512 – สำนักข่าวไทย