กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นประธานการลงนามความร่วมมือระหว่างสหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัดกับธนาคารกรุงไทยในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยผนวกหนี้ทุกประเภทไว้ที่กรุงไทย รับดอกเบี้ยต่ำคงที่ตลอดสัญญา ขยายเวลาผ่อนชำระสูงสุดถึงอายุ 80 ปี ซึ่งจะเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ให้แก่ข้าราชการกลุ่มเปราะบาง ทั้งยังทำให้มีเงินเดือนเหลือเพียงพอต่อการดำรงชีพด้วย
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือใน “โครงการแก้หนี้ข้าราชการยั่งยืน” ระหว่างนายโอภาส กลั่นบุศย์ ประธานกรรมการ สหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัดกับนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ โดยจะผนวกหนี้สินทั้งที่มีอยู่กับสหกรณ์และสถาบันการเงินอื่นๆ มาไว้ที่ธนาคารกรุงไทยซึ่งมีมาตรการที่สนับสนุนนให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สิ้นได้อย่างเป็นระบบ
สำหรับ “สินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน” ข้าราชการกลุ่มเปราะบาง สามารถรวมหนี้รายย่อยทุกประเภท ทั้งสินเชื่อบุคคล บัตรเครดิต และสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ โดยสินเชื่อในโครงการแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
1. สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ 3.50% ต่อปี 3 ปีแรก หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
2. สินเชื่อแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
นอกจากนี้ยังขยายระยะเวลาคืนหนี้และอายุผู้กู้ หากเป็นการแก้ไขหนี้ที่สหกรณ์ดำเนินการ จะขยายระยะเวลาการชำระหนี้แก่สมาชิกจนถึงอายุ 75 ปี แต่ถ้าเป็นการแก้ไขหนี้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย สามารถขยายเวลาชำระได้สูงสุดถึงอายุ 80 ปี จากเดิมกำหนดอายุถึง 60 ปี อีกทั้งให้ผ่อนชำระเงินกู้ เฉพาะส่วนที่เกินทุนเรือนหุ้นที่สมาชิกถือไว้กับสหกรณ์ ที่สำคัญจะควบคุมยอดหนี้ของสมาชิก ให้มีเงินได้รายเดือนคงเหลือหลังหักชำระหนี้แล้วไม่น้อยกว่า 30% เพื่อให้เพียงพอต่อการยังชีพในแต่ละเดือน พร้อมสร้างวินัยทางการเงินให้แก่สมาชิกสหกรณ์ ไม่ให้ก่อหนี้เพิ่มเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
ปัจจุบันสหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัด มีสมาชิก 7,973 ราย ทุนเรือนหุ้น 3,235 ล้านบาท เงินรับฝาก 2,750 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 6,550 ล้านบาท สมาชิกที่มีหนี้กับสหกรณ์มี 5,500 ราย รวม 6,473 ล้านบาท โดยมีสมาชิกที่กู้เงินจากกับสหกรณ์ซึ่งมีเงินได้รายเดือนคงเหลือหลังชำระหนี้สินทั้งสินเชื่อสวัสดิการและเงินกู้จากสถาบันการเงินอื่น น้อยกว่าร้อยละ 30 ของเงินได้รายเดือนมากถึง 1,875 ราย คิดเป็นร้อยละ 34.09 ของสมาชิกที่มีหนี้เงินกู้กับสหกรณ์จึงเป็นเป้าหมายแรกในการที่สหกรณ์จะดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังจะขยายผลโครงการไปทั่วประเทศ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สัมมนาโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินสมาชิกเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่สหกรณ์ใน 10 จังหวัดนำร่องได้แก่ จังหวัดปทุมธานี นครราชสีมา ร้อยเอ็ด อุดรธานี กาญจนบุรี เชียงใหม่ พิษณุโลก ระยอง สงขลา และสุราษฎร์ธานี เพื่อชี้แจงหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิก จากนั้นจะจัดสัมมนาใหม่ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์ทุกแห่งมารับทรายแนวทางช่วยเหลือสมาชิกตามมาตรการของกรมส่งเสริมสหกรณ์
ปัจจุบันมีสหกรณ์ออมทรัพย์ 300 กว่าแห่งเข้าร่วมโครงการซึ่งมีสมาชิกที่มีหนี้สินได้รับประโยชน์ประมาณ 130,000 กว่าคน นอกจากนี้ยังมีสหกรณ์ออมทรัพย์สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการอย่างยั่งยืนตามแนวทางของกรมส่งเสริมสหกรณ์ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยผลที่จะเกิดขึ้นคือ การแก้ไขหนี้สินได้อย่างเป็นระบบและทำให้ข้าราชการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สิ้นได้อย่างเป็นระบบ. 512 – สำนักข่าวไทย