ตรวจยึด “ปลาตะพัด” เตรียมขนส่งออกจากสนามบินหาดใหญ่

สงขลา 14 มิ.ย. – ฉก.พญานาคราช ตรวจยึดปลาตะพัด ปลาสวยงามที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ โดยพบบรรจุในกล่องโฟมอยู่ที่อาคารคลังสินค้า 48 ตัว มูลค่าราว 288,000 บาท เตรียมขนส่งไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง ตรวจไม่พบใบอนุญาตให้ค้าหรือครอบครอง เร่งสอบสวนหาแหล่งที่มา


พันเอกรวิรักษ์ สัตตบุศย์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราชกล่าวว่า หัวหน้าชุดเฉพาะกิจป้องกันลักลอบการนำเข้าสินค้าประมงผิดกฎหมายตรวจสอบสินค้า ณ อาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ตามที่สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนส่งปลาสวยงาม ที่อาจไม่มีใบอนุญาตให้ค้าหรือครอบครอง หรือลักลอบนำเข้า

จากการตรวจสอบพบกล่องโฟม 2 กล่องซึ่งภายในมีปลาตะพัดบรรจุอยู่รวม 48 ตัว น้ำหนัก 60 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 288,000 บาท โดยมีผู้นำปลาสวยงามมานำส่ง ณ คลังอาคารสินค้า ท่าอากาศยานหาดใหญ่เพื่อจะส่งไปยังท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง


สำหรับปลาตะพัด (Scleropages formosus) เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง การกระทดังกล่าวจึงเป็นความผิดตาม พ.ร.ก. การประมง พ.ศ. 2558 ในมาตรา 65 และ 92 และพ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562  มาตรา 17 ว่าด้วยห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง รวมถึงมาตรา 29 ว่าด้วยห้ามมิให้ผู้ใดค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง จึงได้อายัดสินค้าดังกล่าวไว้เพื่อตรวจสอบถึงแหล่งที่มาและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

สำหรับบทลงโทษในการกระทความผิดตาม พ.ร.ก. การประมง ตามมาตรา 158 ผู้ใดฝ่าฝืนตามมาตรา 92 ต้องระวางโทษปรับ 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่นำเข้า ส่งออกหรือนำผ่าน มาตรา 144 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 65 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดตามพ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2558 มาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 29 ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าคุ้มครอง  ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 92 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 17 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ฉก. พญานาคราชประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชสะเดา ด่านตรวจพืชปาดังเบซาร์ ด่านตรวจพืชท่าอากาศยานหาดใหญ่ ด่านตรวจพืชบ้านประกอบ ด่านตรวจพืชท่าเรือสงขลา และด่านกักกันสัตว์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดสงขลา เข้าตรวจสอบรถบรรทุกตู้แช่เย็นที่สงสัยว่า อาจบรรทุกสิ่งที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าตามกฎหมายกักพืช ณ บริเวณหน้าโรงแรมวีเจ ถนนกาญจนวนิช ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พบสินค้าประเภทผลไม้ที่มีการลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมายหลายชนิด ประกอบด้วย


1) ส้ม น้ำหนัก 4,464 กิโลกรัม มูลค่า 580,320 บาท

2) เมล่อน น้ำหนัก 115 กิโลกรัม มูลค่า 23,000 บาท

3) อะโวคาโด น้ำหนัก 4,220 กิโลกรัม มูลค่า 1,730,200 บาท

4) ทับทิม น้ำหนัก 873 กิโลกรัม มูลค่า 174,600 บาท

น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 9,672 กิโลกรัม มูลค่ารวมประมาณ 2,508,120 บาท ซึ่งผลไม้ดังกล่าวนั้น จัดเป็นสิ่งต้องห้ามตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติมประกอบประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดพืช และพาหะจากแหล่งที่กำหนด เป็นสิ่งต้องห้าม ข้อยกเว้น และเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2550 ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรา 8 (2) แห่งพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชสะเดา จังหวัดสงขลา ได้ดำเนินอายัดสินค้าดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ลักลอบ จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าวส่งมอบและดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอสะเดา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เงินหมื่นเฟส3

นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-อากาศร้อนในตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิจะสูงขึ้น กับมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

ราชทัณฑ์เปิดภาพผ้าเช็ดตัว-ผังห้องขังหมายเลข 50

กรมราชทัณฑ์ เปิดภาพและขนาดผ้าเช็ดตัวที่จัดสรรแจกให้ผู้ต้องขังชาย-หญิง ในเรือนจำ พร้อมข้อมูลแดน 5 และผังห้องขังหมายเลข 50