“ธรรมนัส” สั่งช่วยเกษตรกรประสบปัญหาน้ำเค็มรุกคลองประเวศฯ

กรุงเทพฯ 18 เม.ย. – ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เผยเร่งประสานผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและสมุทรปราการตามข้อสั่งการของรมว. ธรรมนัสที่ให้แก้ปัญหาเบื้องต้นให้เกษตรกรจากเหตุน้ำเค็มรุกล้ำคลองประเวศฯ และคลองสาขา ขณะนี้กรมชลประทานเร่งสูบน้ำเค็มออกและระบายน้ำจืดไล่น้ำเค็ม จนค่าความเค็มทรงตัว คาดใน 2-3 วันนี้จะชัดเจนว่า ความเสียหายของเกษตรกรรุนแรงจนถึงขั้นต้องประกาศเขตภัยพิบัติหรือจะฟื้นฟูผลผลิตทางการเกษตรเสียหายอย่างไร


นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและสมุทรปราการเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาน้ำเค็มรุกคลองประเวศบุรีรมย์ ตามข้อสั่งการของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ห่วงใยเกษตรกรและประชาชน

ล่าสุดได้รับรายงานจากกรมชลประทานว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำคลองประเวศบุรีรมย์และคลองสาขาต่างๆ ตั้งแต่บริเวณประตูระบายน้ำพระธรรมราชา ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ไปจนถึงสถานีสูบน้ำท่าถั่ว อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า ค่าความเค็มในคลองสาขาเริ่มลดลงและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยกรมชลประทานได้ปิดกั้นและก่อสร้างทำนบกึ่งถาวร (โครงสร้างเหล็ก) ทดแทนทำนบดินชั่วคราวเดิมเพื่อช่วยป้องกันปัญหาน้ำเค็มไหลย้อนเข้าคลองได้อย่างถาวร พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำเค็มออกจากคลองประเวศบุรีรมย์และคลองสาขาต่างๆ ออกสู่แม่น้ำบางปะกงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มเติม แล้วลำเลียงน้ำจากพื้นที่ตอนบนผ่านประตูระบายน้ำบึงฝรั่งเพื่อลำเลียงน้ำไปสู่คลองนครเนื่องเขตใช้ช่วยเจือจางน้ำเค็ม พร้อมกันนี้ยังได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำประปา ช่วยเหลือพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากบางพื้นที่ระบบประปาหมู่บ้านไม่สามารถสูบน้ำจากคลองมาผลิตทำน้ำประปาได้


นอกจากนี้ยังได้วางแผนก่อสร้างทำนบดินชั่วคราวบริเวณคลองนครเนื่องเขตเพื่อยกระดับน้ำให้ไหลเข้าคลองเปร็งและคลองประเวศฯ เพื่อช่วยเจือจางน้ำเค็มให้เร็วที่สุด ตลอดจนกำจัดผักตบชวาในคลองเพื่อลดการเน่าเสียของน้ำในคลอง หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิตได้ตลอดเวลา

จากการสำรวจความเสียหายของเกษตรกรเบื้องต้นพบว่า พื้นที่เกษตรด้านพืชและการเลี้ยงปลาในกระชังได้รับความเสียหาย จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมประมงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรวบรวมความเสียหายของเกษตรเสนอมายังกระทรวงเพื่อจะพิจารณาแนวทางช่วยเหลือฟื้นฟู หากพบความเสียหายรุนแรงและเป็นวงกว้าง จะประสานผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเพื่อจ่ายเงินเยียวยาตามระเบียบกระทรวงการคลัง

กรมส่งเสริมการเกษตรรายงานว่า ในจังหวัดฉะเชิงเทรามีพื้นที่เกษตรด้านพืชได้รับผลกระทบ 3 อำเภอคือ อำเภอบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบางปะกง โดยในอำเภอบ้านโพธิ์ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 ตำบล เกษตรกรได้รับผลกระทบ 1 ราย พื้นที่ 3 ไร่ ชนิดพืชสวนผสม อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 6 ตำบล เกษตรกรได้รับผลกระทบ 11 ราย พื้นที่รวมประมาณ 2 ไร่ 3 งาน ชนิดพืชผัก และอำเภอบางปะกง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 ตำบล เกษตรกรได้รับผลกระทบ 6 ราย พื้นที่รวมประมาณ 2 ไร่ ชนิดพืชผัก และไม้ประดับ


ส่วนสำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรปราการรายงานว่า ผลการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น ทางด้านพืชยังไม่ส่งผลเสียหายต่อพืชโดยตรง เนื่องจากเกษตรกรปลูกไม้ผลได้แก่ มะม่วง มะพร้าว และกล้วย ตามคันบ่อเลี้ยงปลา โดยได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรอำเภอติดตามสำรวจพื้นที่เสียหายในทุกตำบลของอำเภอบางบ่ออย่างต่อเนื่องแล้ว

สำหรับเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 เกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือ ต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย พื้นที่เป็นพื้นที่เสียหายจริง อยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ โดยจะช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตรา ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่ละพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ และไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เตรียมจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการจัดการทรัพยากรน้ำชั่วคราวในภาวะวิกฤติ ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะเวลา 3 วัน

หากปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีไม่เพียงพอที่จะระบายมาเจือจางค่าความเค็มอย่างต่อเนื่อง จะพิจารณาขอใช้น้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มาใช้สนับสนุนเพิ่มเติมต่อไป ในระหว่างนี้กรมควบคุมมลพิษจะตรวจวัดคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่องและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะทำการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

จากการตรวจสอบพบว่า จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นบริเวณที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในขณะนี้ ทางจังหวัดฉะเชิงเทรากำลังพิจารณาประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยเพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งเกษตรกรและชาวประมงที่เลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่ต่อไป

ทั้งนี้สทนช. จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพิจารณาแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเค็มรุกล้ำ จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดสมุทรปราการ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการบำบัดคุณภาพน้ำในคลองต่างๆ ซึ่งใช้สำหรับทั้งการอุปโภคบริโภค การเกษตรและการประมงให้กลับสู่สภาวะปกติ โดยจะเร่งรัดดำเนินการเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง. – 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]