fbpx

“ธรรมนัส” สั่งช่วยเกษตรกรประสบปัญหาน้ำเค็มรุกคลองประเวศฯ

กรุงเทพฯ 18 เม.ย. – ปลัดกระทรวงเกษตรฯ เผยเร่งประสานผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและสมุทรปราการตามข้อสั่งการของรมว. ธรรมนัสที่ให้แก้ปัญหาเบื้องต้นให้เกษตรกรจากเหตุน้ำเค็มรุกล้ำคลองประเวศฯ และคลองสาขา ขณะนี้กรมชลประทานเร่งสูบน้ำเค็มออกและระบายน้ำจืดไล่น้ำเค็ม จนค่าความเค็มทรงตัว คาดใน 2-3 วันนี้จะชัดเจนว่า ความเสียหายของเกษตรกรรุนแรงจนถึงขั้นต้องประกาศเขตภัยพิบัติหรือจะฟื้นฟูผลผลิตทางการเกษตรเสียหายอย่างไร


นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราและสมุทรปราการเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาน้ำเค็มรุกคลองประเวศบุรีรมย์ ตามข้อสั่งการของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ห่วงใยเกษตรกรและประชาชน

ล่าสุดได้รับรายงานจากกรมชลประทานว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำเค็มรุกล้ำคลองประเวศบุรีรมย์และคลองสาขาต่างๆ ตั้งแต่บริเวณประตูระบายน้ำพระธรรมราชา ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ไปจนถึงสถานีสูบน้ำท่าถั่ว อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่า ค่าความเค็มในคลองสาขาเริ่มลดลงและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยกรมชลประทานได้ปิดกั้นและก่อสร้างทำนบกึ่งถาวร (โครงสร้างเหล็ก) ทดแทนทำนบดินชั่วคราวเดิมเพื่อช่วยป้องกันปัญหาน้ำเค็มไหลย้อนเข้าคลองได้อย่างถาวร พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำเค็มออกจากคลองประเวศบุรีรมย์และคลองสาขาต่างๆ ออกสู่แม่น้ำบางปะกงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มเติม แล้วลำเลียงน้ำจากพื้นที่ตอนบนผ่านประตูระบายน้ำบึงฝรั่งเพื่อลำเลียงน้ำไปสู่คลองนครเนื่องเขตใช้ช่วยเจือจางน้ำเค็ม พร้อมกันนี้ยังได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำประปา ช่วยเหลือพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากบางพื้นที่ระบบประปาหมู่บ้านไม่สามารถสูบน้ำจากคลองมาผลิตทำน้ำประปาได้


นอกจากนี้ยังได้วางแผนก่อสร้างทำนบดินชั่วคราวบริเวณคลองนครเนื่องเขตเพื่อยกระดับน้ำให้ไหลเข้าคลองเปร็งและคลองประเวศฯ เพื่อช่วยเจือจางน้ำเค็มให้เร็วที่สุด ตลอดจนกำจัดผักตบชวาในคลองเพื่อลดการเน่าเสียของน้ำในคลอง หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิตได้ตลอดเวลา

จากการสำรวจความเสียหายของเกษตรกรเบื้องต้นพบว่า พื้นที่เกษตรด้านพืชและการเลี้ยงปลาในกระชังได้รับความเสียหาย จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมประมงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรวบรวมความเสียหายของเกษตรเสนอมายังกระทรวงเพื่อจะพิจารณาแนวทางช่วยเหลือฟื้นฟู หากพบความเสียหายรุนแรงและเป็นวงกว้าง จะประสานผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเพื่อจ่ายเงินเยียวยาตามระเบียบกระทรวงการคลัง

กรมส่งเสริมการเกษตรรายงานว่า ในจังหวัดฉะเชิงเทรามีพื้นที่เกษตรด้านพืชได้รับผลกระทบ 3 อำเภอคือ อำเภอบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอบางปะกง โดยในอำเภอบ้านโพธิ์ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 ตำบล เกษตรกรได้รับผลกระทบ 1 ราย พื้นที่ 3 ไร่ ชนิดพืชสวนผสม อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 6 ตำบล เกษตรกรได้รับผลกระทบ 11 ราย พื้นที่รวมประมาณ 2 ไร่ 3 งาน ชนิดพืชผัก และอำเภอบางปะกง มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 ตำบล เกษตรกรได้รับผลกระทบ 6 ราย พื้นที่รวมประมาณ 2 ไร่ ชนิดพืชผัก และไม้ประดับ


ส่วนสำนักงานเกษตรจังหวัดสมุทรปราการรายงานว่า ผลการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น ทางด้านพืชยังไม่ส่งผลเสียหายต่อพืชโดยตรง เนื่องจากเกษตรกรปลูกไม้ผลได้แก่ มะม่วง มะพร้าว และกล้วย ตามคันบ่อเลี้ยงปลา โดยได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรอำเภอติดตามสำรวจพื้นที่เสียหายในทุกตำบลของอำเภอบางบ่ออย่างต่อเนื่องแล้ว

สำหรับเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืช ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2563 และหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 เกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือ ต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนเกิดภัย พื้นที่เป็นพื้นที่เสียหายจริง อยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ โดยจะช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตรา ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่ละพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ และไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เตรียมจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการจัดการทรัพยากรน้ำชั่วคราวในภาวะวิกฤติ ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะเวลา 3 วัน

หากปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีไม่เพียงพอที่จะระบายมาเจือจางค่าความเค็มอย่างต่อเนื่อง จะพิจารณาขอใช้น้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มาใช้สนับสนุนเพิ่มเติมต่อไป ในระหว่างนี้กรมควบคุมมลพิษจะตรวจวัดคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่องและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะทำการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

จากการตรวจสอบพบว่า จังหวัดฉะเชิงเทราเป็นบริเวณที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในขณะนี้ ทางจังหวัดฉะเชิงเทรากำลังพิจารณาประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยเพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งเกษตรกรและชาวประมงที่เลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่ต่อไป

ทั้งนี้สทนช. จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพิจารณาแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำเค็มรุกล้ำ จังหวัดฉะเชิงเทราและจังหวัดสมุทรปราการ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการบำบัดคุณภาพน้ำในคลองต่างๆ ซึ่งใช้สำหรับทั้งการอุปโภคบริโภค การเกษตรและการประมงให้กลับสู่สภาวะปกติ โดยจะเร่งรัดดำเนินการเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง. – 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้อพยพจากไทยคว้าแจ็กพอตเพาเวอร์บอล

ผู้อพยพจากไทยไปใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐดวงเฮง คว้ารางวัลแจ็กพอตลอตเตอรี่เพาเวอร์บอล ได้เงินรางวัลสูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจสเปก “ผบ.ตร.คนใหม่” ต้องซื่อสัตย์สุจริต ชี้ประชาชนเบื่อมากข่าวนายตำรวจระดับสูง ควรเร่งทำงานสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน

นายกฯ บอกขอโทษ “ปานปรีย์” แล้ว ไม่ขัดแย้ง

นายกฯ เผยขอโทษ “ปานปรีย์” แล้วหลังหลุดรองนายกฯ รับมีทั้งคนพอใจ ไม่พอใจ ยันสัมพันธ์ลูกเป็นเพื่อนกัน ไม่ขัดแย้ง เชื่อคนใหม่สานต่องานได้  

“ปานปรีย์” รับยื่นลาออก หลังถูกปรับพ้นรองนายกฯ

“ปานปรีย์” ยอมรับยื่นลาออก หลังถูกปรับออกจากรองนายกฯ ชี้หากไม่มีตำแหน่งพ่วงอาจทำงานไม่ราบรื่น ลั่นหากมีคนอื่นเหมาะสมกว่าให้มาทำงานแทน

ข่าวแนะนำ

โปรดเกล้าฯ “มาริษ” รมว.กต.คนใหม่

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้ง “มาริษ” เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ แทน “ปานปรีย์” ที่ลาออกจากตำแหน่ง มีผลทันที

นายกฯ ย้ำไม่ลืมคำมั่นเพิ่มค่าแรง ชี้ต้องเพียงพอดำรงชีวิต

เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความไม่ลืมคำมั่นเพิ่มเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำ ย้ำเงินเดือนต้องเพียงพอในการดำรงชีวิต

ข้าราชการบรรจุใหม่เฮ! ปรับขึ้นเงินเดือน 1 พ.ค.67-68

รัฐบาลขึ้นเงินเดือนข้าราชการกลุ่มบรรจุใหม่ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 พฤษภาคม 2567) หลังจัดงบประมาณไว้รองรับแล้ว ส่วนปี 2568 พร้อมขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี แตะ 18,000 บาท