กรุงเทพฯ 26 ก.พ. – รมว. เกษตรฯ ขอให้รอผลตรวจสอบแนวเขตที่ดินซึ่งออกส.ป.ก. 4-01 โดยกรมแผนที่ทหารเพื่อยืนยันว่า เป็นพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรืออุทยานแห่งชาติและป่าสงวนแห่งชาติกันแน่ ย้ำ ส.ป.ก. ทำหน้าที่จัดสรรที่ดินทำกินให้เกษตรกรที่ยากไร้ ไม่ใช่นายทุน อย่าโจมตีว่า เป็นโจรหรือเป็นพวกไม่รักป่า หากพบออก ส.ป.ก. 4-01 โดยมิชอบ ลงโทษแน่
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า กำลังรอผลการตรวจสอบแนวเขตที่ดินซึ่งพบหมุด ส.ป.ก. และสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาออกส.ป.ก. 4-01 บริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง โดยกรมแผนที่ทหารคาดว่า จะแล้วเสร็จประมาณอีก 2 สัปดาห์ ซึ่งจะทราบชัดเจนว่า เป็นเขตปฏิรูปที่ดินในความรับผิดชอบของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก) หรือเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งรับผิดชอบโดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกันแน่
นอกจากนี้มอบหมายให้นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการส.ป.ก. ตรวจสอบพื้นที่ที่พบหมุดส.ป.ก. ในตำบลกลางดง อำเภอปากช่องด้วยว่า เป็นเขตปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก. หรือเขตป่าสงวนแห่งชาติของกรมป่าไม้
ทั้งนี้ส.ป.ก. มีหน้าที่จัดสรรที่ดินทำกินให้เกษตรกรที่ยากไร้ ขณะที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงกรมป่าไม้มีหน้าที่ดูแลรักษาป่า แต่ไม่ใช่ว่า ส.ป.ก. รุกป่า ดังนั้นอย่ามองว่า เจ้าหน้าที่ส.ป.ก. เป็นโจรหรือไม่รักป่า ยืนยันว่า จะไม่ปล่อยให้ที่ดินของรัฐในความรับผิดชอบของส.ป.ก. ตกไปอยู่ในมือนายทุนแน่ ที่ผ่านมายึดคืนที่ส.ป.ก. ที่เปลี่ยนมือไปสู่กลุ่มทุนกลับมาเป็นจำนวนมากแล้ว กรณีที่พบการออกส.ป.ก. โดยมิชอบ จากความบกพร่องหรือเจตนาทุจริตของเจ้าหน้าที่ จะลงโทษทั้งทางอาญาและวินัยอย่างแน่นอน
ร้อยเอกธรรมนัสยย้ำว่า ยังมีเกษตรกรอีกประมาณ 1.7 ล้านครอบครัว ที่รอการจัดสรรที่ดินให้ทำกิน แต่เมื่อมีปัญหาการทับซ้อนของแนวเขตที่ดินของรัฐแต่ละประเภท จะต้องมีคณะกรรมการจากหน่วยงานกลางคือ กรมแผนที่ทหารซึ่งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) มอบหมายให้เร่งขับเคลื่อนการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างหน่วยงาน
ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (27 กุมภาพันธ์) จะประชุมมอบนโยบายให้แก่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดทั่วประเทศถึงการจัดทำป่าชุมชนบริเวณรอยต่อของเขตปฏิรูปที่ดินกับป่าอนุรักษ์เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ ควบคู่กับการรักษาพื้นที่ป่า
พร้อมย้ำว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริมการรักษาป่าอย่างชัดเจนเนื่องจากป่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ปัจจุบันพื้นที่ป่าลดน้อยลงส่งผลให้เกิดความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรกรรมในที่สุด ดังนั้นจะส่งเสริมให้การเพิ่มพื้นที่ป่าในเขตปฏิรูปที่ดิน.- 512 – สำนักข่าวไทย