ลงนาม 3 หน่วยงานยกระดับประกันภัยพืชผลด้วยเทคโนโลยี

กรุงเทพฯ 31 ม.ค.- รมว. เกษตรฯ เป็นประธานลงนามความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมประกันวินาศภัยไทย และไทยคม นำระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการประกันภัยพืชผล สามารถประเมินความเสียหายได้เร็วและจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้เกษตรกรได้เร็ว โดยกระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายขยายโครงการประกันภัยครอบคลุมผลผลิตภาคการเกษตรอีกหลายชนิดเพื่อลดภาระด้านงบประมาณ


ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานในการลงนามความร่วมมือของรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมประกันวินาศภัยไทย และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ในโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย ด้วยการนำระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการประกันภัยพืชผล พร้อมยกระดับมาตรฐานการประกันภัยด้านการเกษตรด้วยการใช้เทคโนโลยีอวกาศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีลงนาม ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือของกรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมประกันวินาศภัยไทย และไทยคม ทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันพัฒนาการนำระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการประกันภัยพืชผล  ด้วยการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลก (Earth Observation Satellite) ระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics System) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence/Machine Learning) มาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น ข้อมูลแปลงเกษตรกร พันธุ์ข้าว พื้นที่ประสบภัยพิบัติ และอื่น ๆ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการวางแผนและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติให้ได้รับเงินสินไหมทดแทนได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ทำให้ต้นทุนของเกษตรกรลดลง อีกทั้งยังช่วยให้ภาครัฐมีข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ เพื่อนำใช้ในการวางแผนรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างทันถ่วงที และช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนช่วยให้ภาครัฐบริหารจัดการงบประมาณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีจุดมุ่งหมายสำคัญในการ บูรณาการความร่วมมือ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ อาทิ ข้อมูลสารสนเทศ ข้อมูลภูมิสารสนเทศ และงานวิจัย เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งสามหน่วยงานให้มีความรู้ความสามารถ อันจะนำไปสู่การช่วยขับเคลื่อนให้ภาคอุตสาหกรรมเกษตรของประเทศก้าวหน้าต่อไปได้ในอนาคต


นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรวางแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจในปี 2567 โดยเน้นขับเคลื่อนงานส่งเสริมการเกษตรเชิงพื้นที่ สร้างสินค้าเกษตรมูลค่าสูง (High Value) ควบคู่ไปกับการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ทำเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Low Carbon) และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในภาคการเกษตรรวมทั้งปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และขับเคลื่อน BCG Model รวมทั้งปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital DOAE) เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน สมดุล ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ถือเป็นหน่วยงานหลักในการรับขึ้นทะเบียนเกษตรกร รับแจ้งข้อมูลเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติ ร่วมเป็นคณะกรรมการประเมินความเสียหายในแปลงของเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติ และการดำเนินการด้านอื่น ๆ เช่น วางแผนช่วยเหลือและพัฒนาการเกษตรและเกษตรกร ซึ่งเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายภายหลังเกิดภัยแล้ว พร้อมทั้งเชื่อมโยงข้อมูลให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและสมาคมประกันวินาศภัยไทยไปใช้ประกอบการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเกษตรกรที่ทำประกันภัยไว้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการดำเนินการพอสมควร 

ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น จึงได้ร่วมมือกับ บริษัท ไทยคมจำกัด (มหาชน) และ สมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อนำความรู้ และความเชี่ยวชาญ สร้างความร่วมมือทางวิชาการ ร่วมกันบูรณาการและพัฒนาแนวทางการนำระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการประกันภัยพืชผล ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น และโอกาสที่ดีที่จะร่วมกัน ในการพัฒนาระบบประกันภัยพืชผลอย่างยั่งยืน มีความถูกต้อง แม่นยำ โดยการนำเทคโนโลยีดาวเทียมสำรวจทรัพยากรโลก เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลขนาดใหญ่มาใช้ เป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาใช้การประกันภัยเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการบริหารจัดการความเสี่ยงในการทำการเกษตร และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานภาครัฐและประชาชน และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยความมั่นคง เพราะภาคเกษตรกรรมเป็นรากฐานที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย

ดร. สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า สมาคมประกันวินาศภัยไทย เป็นองค์กรที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการนำระบบประกันภัยมาใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงให้กับภาครัฐและเกษตรกร โดยเฉพาะโครงการประกันภัยพืชผล ซึ่งเป็นโครงการที่ธุรกิจประกันวินาศภัยมีเจตนารมณ์มุ่งมั่นในการทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการบริหารความเสี่ยง ให้กับภาคการเกษตรของไทย เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยให้เกษตรกรมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพมากยิ่งขึ้น โดยสมาคมฯ ได้ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารโครงการประกันภัยพืชผลให้กับภาครัฐในโครงการประกันภัยข้าวนาปี และโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลารวมกว่า 12 ปี ซึ่งมีภาพรวมของผลการดำเนินงานในการรับประกันภัยครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 210 ล้านไร่ และมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เป็นจำนวนกว่า 15,066 ล้านบาท แบ่งเป็น


1. โครงการประกันภัยข้าวนาปี ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปี 2565 มีพื้นที่รับประกันภัย จำนวน 203.7 ล้านไร่ มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน จำนวน 14,611 ล้านบาท

2. โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่ปี 2552 จนถึง ปี 2566 มีพื้นที่รับประกันภัย จำนวน 5.5 ล้านไร่ มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทน จำนวน 455 ล้านบาท

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้มีการพัฒนาโครงการประกันภัยพืชผล โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนโครงการประกันภัยพืชผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์การดำเนินงานให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรวมถึงเกษตรกรผู้เอาประกันภัยให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องและรวดเร็ว เพื่อให้การประกันภัยพืชผลของไทยเกิดความยั่งยืน ดังนี้

  1. พัฒนาเทคโนโลยีในการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลการรับประกันภัย การขึ้นทะเบียนเกษตรกร และการรายงานความเสียหาย ระหว่างกรมส่งเสริมการเกษตร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กับสมาคมฯ เพื่อให้มีการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเกษตรกรได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น
  2. พัฒนาระบบการรายงานความเสียหายด้วยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายโดยมิได้อยู่ในพื้นที่ประกาศเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ผ่านแอปพลิเคชัน “มะลิซ้อน” เพื่อให้เกษตรกรผู้เอาประกันภัยสามารถใช้แอปพลิเคชันนี้รายงานความเสียหายด้วยโทรศัพท์มือถือ ต่อยอดการเป็น Smart Farmer ซึ่งจะช่วยให้การประกอบอาชีพการเกษตรในประเทศไทยมีความยั่งยืนต่อไป
  3. การนำเทคโนโลยีดาวเทียม ระบบการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) และระบบ AI & Machine Learning มาใช้ในการประกันภัยพืชผล โดยร่วมกับบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ในการวิเคราะห์ข้อมูลและตรวจสอบความเสียหายเพื่อดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในโครงการประกันภัยพืชผลต่อไป ซึ่งได้เริ่มนำร่องในพื้นที่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย ขอนแก่น นครราชสีมา นครสวรรค์ นครศรีธรรมราช ร้อยเอ็ด และสุโขทัย โดยผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าวนั้นสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางที่ใช้ในการพัฒนา ต่อยอด และขยายผลในการดำเนินงานเพิ่มเติมในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศต่อไป ซึ่งจะมีการดำเนินงานขยายพื้นที่การทดสอบ จากเดิม 6 จังหวัด จำนวน 3 ล้านไร่ เป็น 16 จังหวัด จำนวน 13 ล้านไร่ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการสำรวจความเสียหายให้มีความครอบคลุมและมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม กล่าวว่า ไทยคมมีเจตนารมณ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่ไปกับการช่วยพัฒนาประเทศชาติให้เกิดความยั่งยืน ด้วยการพัฒนาโซลูชันที่ได้ข้อมูล Big Data จากอวกาศ มาวิเคราะห์ร่วมกับ Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) เพื่อนำไปใช้วางแผนในการบริหารจัดการให้กับประเทศในหลายมิติ โดยเฉพาะภาคการเกษตรไทย ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ ดังนั้น การผนึกกำลังกับกรมส่งเสริมการเกษตร และสมาคมประกันวินาศภัยไทย จึงเป็นการตอกย้ำพันธกิจของไทยคม ที่ได้นำความเชี่ยวชาญในธุรกิจดาวเทียมและเทคโนโลยีอวกาศ มาต่อยอดให้เกิดเป็นแพลตฟอร์มในการประกันภัยพืชผล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้

การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นผลต่อเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวของสมาคมฯ ในการนำระบบวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการประกันภัยพืชผลเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย ที่มีเป้าหมายร่วมกันเพื่อผลักดันการนำเทคโนโลยีมาใช้ประเมินความเสียหายทั่วประเทศต่อไป. – 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร