“เฉลิมชัย” ยืนยันมีขบวนการทำลายชื่อเสียงโดยโยงเข้ากับคดีหมู-ตีนไก่เถื่อน

กรุงเทพฯ 16 ม.ค. – “เฉลิมชัย” เผยมีขบวนการทำลายชื่อเสียง โดยพยายามโยงเข้ากับคดีหมูและตีนไก่เถื่อน จากการออกหมายจับคนใกล้ชิด ชี้เห็นเหมือน “รมว. ธรรมนัส” ที่ระบุว่า พนักงานสอบสวนเบนประเด็น ย้ำขอให้คดีอย่างตรงไปตรงมา คนผิด ให้จับกุม แต่อย่าละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่งผิดตามมาตรา 157 กรณี “เฮียเก้า” ที่ถูกออกหมายจับ ยอมรับเป็นญาติห่างๆ แต่ไม่ใช่น้องพ่อเดียวกัน


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า มีขบวนการทำลายชื่อเสียงทางการเมือง โดยโยงตนซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้ากับคดีหมูและตีนไก่เถื่อน

ขณะเป็นรัฐมนตรีว่าการได้มอบหมายให้นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับดูแลกรมปศุสัตว์ โดยมอบอำนาจขาด แต่ตนเองเข้ามาดูแลเรื่องหมูตอนเกิดการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ซึ่งทำให้การเกิดโรคระบาดทำให้มีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูอย่างผิดกฎหมายต่อมา จึงสั่งการกรมปศุสัตว์ให้คุมเข้มตามด่านกักกันสัตว์ตามตะเข็บชายแดน รวมถึงตรวจสอบห้องเย็นต่างๆ เพื่อป้องกันและปราบปราม แต่จุดที่หน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่มีอำนาจตรวจสอบคือ ที่ท่าเรือซึ่งดูแลโดยกรมศุลกากร


นายเฉลิมชัยกล่าวถึงการที่พนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษออกหมายจับนายหลี่ เซิ่งเจียวหรือ “เฮียเก้า ซึ่งเป็นญาติห่างๆ และนายสมเกียรติ กอไพศาล อดีตเลขานุการส่วนตัวและอดีตประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าตีนไก่และสวมสิทธิ์ส่งออกว่า ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์แก้ต่างตามกฎหมาย แต่เห็นเหมือนร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ออกมาระบุว่า พนักงานสอบสวนเบี่ยงเบนคดีจาก “หมูเถื่อน” ไป “ตีนไก่” ทำให้คดี “หมูเถื่อน” ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย

พร้อมย้ำว่า ขอให้พนักงานสอบสวนทำงานอย่างตรงไปตรงมา ใครผิดจริง ให้จับกุม แต่ขณะนี้เห็นว่า มีความพยายามโน้มน้าวผู้กระทำผิดให้เป็นพยานเพื่อจะจับกุมคนอื่นๆ จึงอย่าละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่งเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 157

นายเฉลิมชัยกล่าวเพิ่มเติมถึง “เฮียเก้า” ว่า เป็นญาติห่างๆ ที่ประเทศจีน คนในหมู่บ้านเดียวกันถือเป็นญาติกัน แต่ไม่ใช่พี่น้องพ่อเดียวกันตามที่มีผู้กล่าวอ้างเพราะบิดาของตนอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 80 ปี หลังจากที่มาอยู่เมืองไทยแล้ว ก็ไม่เคยกลับไปประเทศจีนอีกเลย


ส่วนที่ปรากฏภาพหมู่ที่มีตนและเฮียเก้าอยู่ในภาพเดียวกันนั้น ตนได้รับเชิญจากสมาคมธุรกิจแห่งหนึ่งของจีน โดย “เฮียเก้า” ซึ่งเป็นนายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชียได้รับเชิญจากฝ่ายจีนด้วย แต่ยืนยัน ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใครผิดก็จับกุมไป อย่าเอาไว้ แต่หากทำให้ตนเสียหายจะฟ้องร้องแน่นอน. -512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

สว.ยื่นถอดถอนรัฐมนตรี

สว. จ่อยื่นถอดถอน​ “รมต.” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร

สว. ประกาศสงคราม​ เตรียมยื่นถอดถอน​ “รัฐมนตรี” กล่าวหาอั้งยี่-ซ่องโจร พ่วง​ยื่นอภิปราย-แจ้งความ​-เชิญสอบใน​กมธ.​

ส่งกลับเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนอีก 300 คน

วันที่สองของปฏิบัติการขนเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมียวดี ข้ามชายแดนไทย ส่งกลับประเทศอีก 300 คน รวม 2 วัน ส่งกลับแล้ว 500 คน เหลือพรุ่งนี้อีก 1 วัน

บุกทลายบ่อนทุนจีนเทากลางเมืองภูเก็ต

ตำรวจภูเก็ตบุกทลายบ่อน ‘กลุ่มจีนเทา’ กลางเมืองภูเก็ต รวบนักพนันชาวจีน 13 ราย พร้อมของกลางกว่า 30 รายการ พบเงินหมุนสัปดาห์เดียวกว่า 5 ล้านบาท