กรุงเทพฯ 14 ม.ค.- อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ หวั่นดีเอสไอแผ่วทำคดี “หมูเถื่อน” หลังเบนไปจับ “ตีนไก่” เผยเตรียมทำหนังสือให้แจ้งความคืบหน้าการดำเนินคดี ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท หากล่าช้า ผู้กระทำความผิด อาจยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน ไม่เหลือให้ยึดทรัพย์
นายสัตวแพทย์วิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า เตรียมทำหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้เร่งคลี่คลายคดี “หมูเถื่อน” 161 ตู้คอนเทนเนอร์ในคดีพิเศษ ที่ 59/2566 เพื่อต้องการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดดำเนินคดีตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสั่งการไว้
ขณะนี้ดีเอสไอเพิ่มคดีพิเศษขึ้นมาอีก 2 คดีคือ คดีพิเศษที่ 126/2566 และ 127/2566 หากพนักงานสอบสวนจะทำควบคู่ไปกับคดีแรกที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเป็นผู้ร้อง ก็ต้องไม่ทำให้คดีแรกล่าช้า โดยผ่านไป 8 เดือน หลังจากสมาคมเข้าร้องทุกข์ ต้องเร่งส่งฟ้องศาลเพื่อพิจารณาความผิดของบริษัทที่ลักลอบนำเข้าและชิปปิ้งซึ่งจะนำมาสู่การลงโทษ หยุดยั้งขบวนการเหล่านี้ ไม่ให้สร้างความเสียหายต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรอีกต่อไป อีกทั้งต้องยึดทรัพย์ตามกฎหมาย หากล่าช้า ผู้กระทำความผิดอาจยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน จนไม่เหลือทรัพย์ให้ยึด
สำหรับข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองที่เกี่ยวข้องซึ่งดีเอสไอเคยให้ข่าวว่า ส่งเรื่องให้ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและชมรมผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่งทำหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อขอให้เร่งรัดพิจารณาและส่งสำนวนคดีพิเศษกลับไปยังดีเอสไอเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดครอบคลุมทุกกลุ่ม
นายสัตวแพทย์วิวัฒน์กล่าวว่า เกษตรกรหวั่นคดีหมูเถื่อนจะแผ่ว เมื่อพนักงานสอบสวนไปทำเรื่องตีนไก่และเนื้อวัวเถื่อน หากคดีที่เพิ่มขึ้นมา เกี่ยวพันกับคดีหมูเถื่อน ก็ควรทำ แต่หากไม่เกี่ยวข้อง ก็ควรเร่งรัดคดีหมูเถื่อนให้จบ อีกทั้งควรแจ้งความคืบหน้าของคดีว่า ไปถึงไหนและจะเสร็จสิ้นประมาณเมื่อไรเนื่องจากผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศกว่า 200,000 รายเดือดร้อนอย่างหนัก จากราคาที่ตกต่ำ
เมื่อคดีมีความชัดเจน ผู้กระทำผิดถูกลงโทษ สังคมจะไม่ต้องสงสัยเกี่ยวกับอักษรย่อที่พนักงานสอบสวนปล่อยออกมาว่า เป็นใครกันแน่ คนที่ไม่เกี่ยวข้อง จะได้ไม่ต้องมัวหมอง
ทั้งนี้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้เข้าหารือกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับปัญหาราคาสุกรหน้าฟาร์มที่ตกต่ำและต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูง จนผู้เลี้ยงขาดทุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า จะวิเคราะห์ต้นทุนสินค้าเกษตรทุกชนิดใหม่ โดยขอให้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติทำข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ทั้งเรื่องการนำเข้าวัตถุดิบและมาตรการรัฐที่เป็นปัญหาอุปสรรค อีกทั้งเห็นว่า ควรมีพ.ร.บ. สุกรเพื่อดูแลผู้ประกอบการตลอดห่วงโซ่ เช่นเดียวกับพ.ร.บ. การประมงที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้นายภูมิธรรมยังแจ้งแก่ทางสมาคมว่า ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนที่ท่าเรือกรุงเทพด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาตรวจสอบเฉพาะที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติจะเข้าหารือกับนายภูมิธรรมอีกครั้งวันที่ 26 มกราคมนี้
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า เตรียมจะสอบถามดีเอสไอถึงความคืบหน้าคดีหมูเถื่อน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับรายใหญ่ว่า ไปถึงไหนแล้ว ต้องการให้ทำคดีให้จบเนื่องจากสร้างผลกระทบต่อผู้เลี้ยงทั้งประเทศ แต่กลับเบนประเด็นไปจับตีนไก่ หากดีเอสไอไม่อยากทำคดีหมูเถื่อน จะนำมาทำเอง โดยชุดเฉพาะกิจพญานาคราชที่ขึ้นตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกอบด้วยหลายหน่วยงานทั้งตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง ปปง. โดยร่วมกับสารวัตรปศุสัตว์ สารวัตรประมง และสารวัตรเกษตร .- 512 – สำนักข่าวไทย