กรุงเทพฯ 12 ม.ค. – “ธรรมนัส” หารือ “ปีติพงศ์” ต่อยอดนโยบาย “โฉนดเพื่อการเกษตร” ด้วยการเพิ่มมูลค่าที่ดิน ส.ป.ก. และสินทรัพย์ในพื้นที่ส.ป.ก. เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมายเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรเป็น 3 เท่า ภายใน 4 ปีของรัฐบาล
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้หารือกับนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และอดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนการเพิ่มมูลค่าที่ดินและสินทรัพย์ในเขตปฏิรูปที่ดินและคณะกรรมการพิจารณาทบทวนระเบียบและกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรเพื่อเตรียมกำหนด
แนวทางการเพิ่มมูลค่าที่ดินส.ป.ก. และสินทรัพย์ในพื้นที่ ส.ป.ก. พร้อมกันนี้มีนายชวลิต ชูขจร อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวีรชัย นาควิบูลย์วงศ์ และนายสรรเสริญ อัจจุตมานัส อดีตเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เข้าร่วมหารือด้วย
ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ยกระดับ “ส.ป.ก.4-01” เป็น “โฉนดเพื่อการเกษตร” ซึ่งมีกฎหมายรองรับให้เกษตรกรเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง และไม่ตกไปอยู่ในมือของเอกชน โดยจะเป็นการเพิ่มโอกาสแก่เกษตรกรในการเพิ่มมูลค่าที่ดินและเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนสำรหับประกอบอาชีพ โดยเชิญนายปีติพงศ์มาให้คำแนะนำที่สำคัญเป็นกรอบทิศทางในการผลักดันให้โฉนดเพื่อการเกษตรสามารถรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกรตัวจริงในการโอนสู่ผู้อื่นนอกจากทายาทโดยธรรม รองรับการเพิ่มมูลค่าที่ดินและสินทรัพย์ในพื้นที่ ส.ป.ก. รวมทั้งแก้ไขข้อจำกัดเพื่อเพิ่มประโยชน์และเพิ่มมูลค่าโฉนดเพื่อการเกษตร ในส่วนการทบทวนระเบียบและกฎหมาย เน้นแก้ไขอุปสรรคสำคัญที่ต่อการผลิต การรับรองมาตรฐาน การขออนุมัติ/อนุญาต การส่งออกสินค้าเกษตร เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตร
ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายระยะเร่งด่วนที่ต้องการสร้างรายได้และขยายโอกาสให้ภาคเกษตร
มีความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรเป็น 3 เท่าภายใน 4 ปีของรัฐบาล ดังนั้นจึงเตรียมแต่งตั้งคณะทำงานกำกับดูแลโฉนดเกษตรเพิ่มเติมได้แก่ โฉนดทะเล โฉนดต้นไม้ โฉนดกระชัง และอื่นๆ ในภายหลัง เพื่อประโยชน์ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการตลาด โดยจะพิจารณาทบทวนและกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของภาคเกษตรให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรไทยต่อไป. – 512 – สำนักข่าวไทย