กรมประมงเข้มตรวจสอบสินค้าสัตว์น้ำนำเข้า เปิดตรวจทุกรายจากประเทศเสี่ยงสูง

กรุงเทพฯ 20 พ.ย. – กรมประมงยกระดับมาตรการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็ง โดยเปิดตรวจตู้สินค้าซึ่งมีต้นทางจากประเทศที่ความเสี่ยงทุกลอตทุกราย คุมเข้มทั้งที่ด่านตรวจสัตว์น้ำและห้องเย็นทั่วประเทศ ขานรับนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ในการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรเถื่อน


นายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมงเปิดเผยว่า ได้ยกระดับการควบคุมตรวจสอบการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็งให้เข้มงวดและรัดกุมยิ่งขึ้น ตามนโยบายการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วยการเพิ่มระดับความเสี่ยงในการเปิดตรวจสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็งจากประเทศที่ความเสี่ยง จากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 100 โดยจะเปิดตรวจทุกลอตทุกราย พร้อมจัดชุดเฉพาะกิจพิเศษขึ้นชื่อ “ฉลามขาว” ทำหน้าที่เฝ้าระวังการลักลอบนำเข้า – ส่งออกสินค้าประมงที่ผิดกฎหมาย โดยร่วมกับศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมง 10 ศูนย์และด่านตรวจประมง 24 ด่าน ทั้งด่านทางบก ทางเรือ และทางอากาศทั่วประเทศ นอกจากนี้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

พร้อมกันนี้ได้สั่งการกำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย มาตรฐานการปฏิบัติงาน คู่มือการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด หากพบว่า มีเจ้าหน้าที่รายใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำสินค้าทุกชนิดเข้าสู่ประเทศอย่างผิดกฎหมาย กรมประมงจะดำเนินการลงโทษทางวินัยอย่างถึงที่สุด


ที่ผ่านมากรมประมงมีกระบวนการในการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าประมงอย่างเป็นระบบ โดยขั้นตอนในการอนุญาตก่อนการนำเข้า ผู้ประกอบการนำเข้าต้องยื่นคำขออนุญาตต่อด่านตรวจประมงในพื้นที่รับผิดชอบ ผ่านระบบเชื่อมโยงคําขอกลางและระบบสนับสนุนใบอนุญาต และใบรับรองผ่านอินเตอร์เน็ตกรมประมง (Fisheries Single Window :FSW) ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 โดยหลังจากได้รับใบอนุญาตแล้ว ผู้นำเข้าจึงจะสามารถจัดทำใบขนสินค้าขาเข้ากับกรมศุลกากรและดำเนินพิธีการทางศุลกากร

อีกทั้ง ในการขออนุญาตกำหนดให้ผู้นำเข้าต้องแสดงเอกสารรับรอง หรือใบรับรองแหล่งที่มาของสัตว์น้ำที่ออกโดยหน่วยงานรัฐของประเทศต้นทาง เพื่อเป็นเอกสารหลักฐานในการสืบค้นแหล่งที่มา ซึ่งแสดงได้ว่าสัตว์น้ำนั้นไม่ได้มาจากการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีที่การนำเข้าสัตว์น้ำที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น กุ้งทะเล ผู้นำเข้าต้องแสดงใบรับรองสุขภาพสัตว์น้ำ ในการนำเข้าจะต้องกักกันเพื่อตรวจพิสูจน์โรค ณ สถานที่พักซากที่กรมประมงรับรองด้วยกระทั่งสินค้ามาถึงท่าเทียบเรือ เมื่อผู้นำเข้าได้รับใบขนสินค้าขาเข้าจากกรมศุลกากรเรียบร้อยแล้ว ต้องยื่นเอกสารเพื่อขอแจ้งตรวจสินค้าผ่านระบบ (SMART FSW) โดยประยุกต์ใช้หลักการและแนวคิดการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ให้ระบบสามารถวิเคราะห์และประมวลผลในการเปิดตรวจสินค้าภายใต้เงื่อนไข หรือปัจจัยที่กำหนด แทนการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ เพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติราชการ  หลังจากนั้นจะนัดหมายเข้าตรวจสอบสินค้า โดยทุกสินค้าประมงจะเปิดตรวจอย่างน้อยร้อยละ 30 ของการนำเข้า แต่อย่างไรก็ตาม แม้ระบบจะไม่สั่งตรวจสินค้า หากเจ้าหน้าที่มีข่าวการลักลอบ หรือมีเหตุอันควรสงสัย เช่น ชนิด ปริมาณ และลักษณะสัตว์น้ำที่นำเข้าผิดวิสัยทั่วไป เจ้าหน้าที่สามารถพิจารณาสั่งตรวจเพิ่มเติมได้

การตรวจสอบหรือเปิดตรวจ กรมประมงได้กำหนดมาตรการไว้ 2 แนวทาง คือการเปิดตรวจ ณ ด่านหรือท่าเทียบเรือ และการตรวจสอบ ณ สถานประกอบการ (โรงงานหรือห้องเย็น) โดยการซีล (Seal) ตู้คอนเทนเนอร์ไปยังสถานประกอบการ เพื่อดำเนินการควบคุมและตรวจสอบการคัดแยกชนิดและปริมาณที่นำเข้า ณ สถานประกอบการ จนมั่นใจว่า สัตว์น้ำที่นำเข้าเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต จึงจะอนุญาตให้เข้าสู่กระบวนการผลิต หรือจำหน่ายต่อไป 


สำหรับพื้นที่ด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังซึ่งถือได้ว่าเป็นด่านฯ ที่มีการนำเข้าสินค้าประมงทางตู้คอนเทนเนอร์มากที่สุด ทำให้มีการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมตรวจสอบสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ลักษณะที่เป็นตู้ Reefer (ตู้แช่เย็น) โดยมีการนำระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนสินค้าด้วยเครื่องเอกซเรย์ และการบันทึกภาพสินค้าภายในตู้ที่ถูกเปิดตรวจ กรณีเมื่อตรวจพบข้อสงสัยจากผลการเอกซเรย์ตู้สินค้า เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรจะทำการเปิดตรวจตู้ และหากพบความผิดปกติ หรือพบของต้องกำกัด จึงจะประสานมายังเจ้าหน้าที่กรมประมง เพื่อทำการตรวจสอบร่วมกันและดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบจากข้อมูลสถิติปริมาณและมูลค่าการนำเข้าในปี 2564 ถึง 31 ตุลาคม 2566 พบว่า มีผู้ประกอบการได้ทำการขออนุญาตนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็ง จำนวน 84,330 ครั้ง รวมปริมาณทั้งสิ้น 4,428,301.31 ตัน แบ่งเป็นสินค้าประเภทปลา 3,777,345.67 ตัน รองลงมาคือ หมึก 498,288.79 ตัน กุ้ง 65,511.85 ตัน หอย 53,365.87 ตัน ปู 29,788.29 ตัน และสัตว์น้ำอื่นๆ 4,000.85 ตัน  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการสุ่มเปิดตรวจทั้งหมด 24,525 ครั้ง พบการลักลอบนำเข้าสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งสิ้น 21 คดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยกระดับมาตรการเปิดตรวจสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็งของกรมประมง เกิดขึ้นจากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้คุมเข้มเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกรณีที่มีข้อมูลว่า ขบวนการลักลอบนำเข้า “หมูเถื่อน” ใช้วิธีสำแดงเป็นสัตว์น้ำแช่แข็งเนื่องจากเนื้อหมูไม่ได้รับการอนุญาตให้นำเข้าจากกรมปศุสัตว์.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร