ชลบุรี 3 พ.ย.- อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจบุกตรวจห้องเย็นและสถานที่ตัดแต่งเนื้อสัตว์ พบเก็บเนื้อวัวและเนื้อควาย ซึ่งมีต้นทางจากหลายประเทศ รวม 5,100 กิโลกรัม โดยผู้ประกอบการไม่มีใบอนุญาตนำเข้าและใบอนุญาตเคลื่อนย้าย จึงยึดอายัด เตรียมดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์ ประกอบด้วย ปศุสัตว์เขต 2 ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี และด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบภาค 2 เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. นายอำเภอบางละมุง และนายกเทศมนตรีตำบลโป่ง เข้าตรวจสอบห้องเย็นคอนเทนเนอร์และสถานที่ตัดแต่งเนื้อสัตว์ต้องสงสัย ตามที่ผู้ร้องเรียนเรียนว่า มีการนำเนื้อโคกระบือผิดกฎหมายนำเข้ามาตัดแต่งและจำหน่าย ตั้งอยู่พื้นที่ ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ผลการเข้าตรวจสอบเนื้อกระบือและเนื้อโค ซึ่งมีต้นทางจากต่างประเทศ น้ำหนักรวม 5,100 กิโลกรัม หรือ 5.1 ตัน ประกอบด้วย
1. เนื้อกระบือนำเข้าจากประเทศอินเดีย 2,600 กิโลกรัม
2. เนื้อโคนำเข้าจากประเทศอาร์เจนตินา ปานามา อุรุกวัย และนิวซีแลนด์ 2,500 กิโลกรัม
ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ประกอบการนำเอกสารใบขออนุญาตนำเข้าและใบอนุญาตเคลื่อนย้ายมาแสดง แต่ผู้ประกอบการไม่สามารถนำมาแสดงได้ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ผ่านเข้า ออก เขตโรคระบาดชั่วคราว และมาตรา 31 ผู้ใดนำเข้า ส่งออก ซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดี
พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้อายัดของกลางทั้งหมดไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ทำความเย็น ณ สถานที่เกิดเหตุ โดยให้ผู้ประกอบการนำเอกสารมาสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 15 วัน หากไม่มาแสดงเอกสารภายในเวลาที่กำหนด พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 22 และมาตรา 31 ต่อพนักงานสอบสวนของ สภ.พื้นที่ต่อไป
สำหรับการเข้าตรวจสอบห้องเย็น สถานที่ตัดแต่ง และสถานที่จำหน่ายสินค้าปศุสัตว์ทั่วประเทศ เป็นนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกำหนดมาตรการประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน โดยกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
พร้อมกันนี้ ขอแนะนำผู้บริโภคให้เลือกซื้อเนื้อสัตว์จากสถานที่หรือแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ และมั่นใจได้ว่าไม่มีการนำเนื้อสัตว์เถื่อนมาจำหน่าย ในส่วนของกรมปศุสัตว์ มีโครงการที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค คือ “โครงการปศุสัตว์ OK” ที่กรมปศุสัตว์ให้การรับรองว่าเนื้อสัตว์ที่จำหน่ายมีความปลอดภัยได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ว่ามาจากฟาร์มเลี้ยงที่ได้มาตรฐาน และมาจากโรงชำแหละที่ถูกสุขอนามัย โดยให้สังเกตตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” ที่เป็นสิ่งยืนยันและสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่า ได้บริโภคเนื้อสัตว์ของไทยที่ผลิตได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัยในอาหารอย่างแน่นอน
หากประชาชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือพบเห็นการกระทำผิดด้านปศุสัตว์ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับข้อมูล หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยแจ้งผ่าน Call Center 063-225-6888 หรือแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ที่ดาวน์โหลดและติดตั้งได้ในโทรศัพท์ทุกระบบ.-สำนักข่าวไทย