“ธรรมนัส” สั่งกรมชลฯ ติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด

กรุงเทพฯ 6 ต.ค.- รมว. ธรรมนัสสั่งกรมชลประทานให้เตรียมรับน้ำเหนือที่จะไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุดกรมชลประทานแบ่งน้ำด้านเหนือกทม. ออกแม่น้ำบางปะกง ปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ เชื่อมั่นกรมชลประทานบริหารจัดการน้ำได้ ส่วนลุ่มน้ำชี-มูลให้เพิ่มการหน่วงน้ำ ก่อนไหลลงไปสมทบที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน พร้อมย้ำให้ติดตามสถานการณ์ฝนที่จะยังตกต่อเนื่องถึง 9 ตุลาคมนี้


ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้กำชับให้กรมชลประทานเตรียมพร้อมรับน้ำเหนือที่จะไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา พร้อมมอบหมายให้นายชูชาติ รักจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ ติดตามสถานการณ์น้ำเนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใย

ล่าสุดกรมชลประทานทำหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยาให้แจ้งเตือนประชาชนริมน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 20-60 เซนติเมตร เนื่องจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ภาคเหนือจากร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้นก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ 


จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ตั้งแต่วันที่ 6-9 ตุลาคม จะยังคงมีฝนตกหนักและหนักมากบางแห่ง อาจทำให้มีน้ำล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำในแม่น้ำวัง แม่น้ำยม และแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่สถานี C.2 อำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์ คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,500-1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม.ต่อวินาที) ซึ่งปริมาณน้ำนี้จะไหลลงมาสมทบกับน้ำที่มาจากแม่น้ำสะแกกรัง อีกประมาณ 100 ลบ.ม.ต่อวินาที ก่อนจะไหลลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราประมาณ 1,600-2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที 

กรมชลประทานจะรับน้ำส่วนหนึ่งเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มศักยภาพ ส่วนปริมาณน้ำที่เหลือจะควบคุมให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราระหว่าง 1,400-1,500 ลบ.ม.ต่อวินาที จะส่งผลให้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อน มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 20-60 เซนติเมตร ได้แก่ พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง, คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิดตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนริมน้ำบางแห่งได้ 

สำหรับสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา วันนี้ (6 ต.ค.66) ที่สถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,669 ลบ.ม./วินาที คาดว่า ระดับน้ำจะทยอยเพิ่มสูงขึ้นในอีก 3 วัน เนื่องจากมีปริมาณน้ำทางตอนบนไหลลงมาสมทบ กรมชลประทาน ได้ทำการพร่องน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้น โดยจะหน่วงน้ำไว้หน้าเขื่อนให้ได้มากที่สุด พร้อมควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ 


ขณะนี้เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำที่ 1,479 ลบ.ม/วินาที หากปริมาณน้ำเหนือเพิ่มสูงขึ้นและจะส่งผลต่อปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,500 ลบ.ม.ต่อวินาที กรมชลประทานจะประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ทราบในระยะต่อไป

สำหรับการป้องกันกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญนั้น กรมชลประทานเร่งผันน้ำด้านเหนือกทม. ออกแม่น้ำบางปะกง เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่องในระยะนี้ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและคลองสาขาที่เป็นจุดเชื่อมต่อกรุงเทพมหานครเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องแบ่งการระบายน้ำ โดยทางด้านฝั่งตะวันออก จะระบายน้ำผ่านสถานีสูบน้ำที่ตั้งอยู่ตามคลองต่างๆ ได้แก่ สถานีสูบน้ำกลางคลองหกวาสายล่าง สถานีสูบน้ำหนองจอก และสถานีสูบน้ำประเวศ และสถานีสูบน้ำท่าถั่ว ซึ่งได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮโดรโฟลเพิ่มเติม เร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำบางปะกงอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำบางส่วนจากพื้นที่ตอนบนจะไหลผ่านคลองพระองค์ไชยานุชิต ก่อนจะระบายลงสู่อ่าวไทยตามลำดับ 

ส่วนทางด้านฝั่งตะวันตก ได้ใช้คลองรังสิตประยูรศักดิ์ ในการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านปตร.กึ่งถาวรปากคลองรังสิต เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่กรุงเทพมหานคร และรองรับปริมาณน้ำจากฝนที่จะตกลงมาเพิ่ม ช่วยป้องกันน้ำท่วมในเขตพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล

ด้านสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำชี-มูลซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปติดตามสถานการณ์ในช่วงบ่ายวันนี้ กรมชลประทานรายงานว่า ฝนตกในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำชีและมูลตอนบน เพิ่มสูงขึ้น โดยที่เขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ได้ใช้เขื่อนมหาสารคาม และเขื่อนวังยาง หน่วงน้ำในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำชี ในขณะที่เขื่อนลำปาว มีการปรับลดการระบายน้ำลง เนื่องจากปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเริ่มลดลงทำให้สถานการณ์น้ำด้านท้ายเขื่อน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง 

ในลุ่มน้ำมูล ได้เพิ่มการหน่วงน้ำที่เขื่อนราษีไศล พร้อมเร่งระบายน้ำในพื้นที่ตอนกลางของลุ่มน้ำทั้งสองอย่างต่อเนื่องทำให้ปัจจุบันที่สถานีวัดน้ำ M7 จ.อุบลราชธานี มีระดับน้ำอยู่ที่ 112.65 ม. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ 

ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวย้ำว่า กำชับกรมชลประทานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า จะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง จึงต้องบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนน้อย ทะเลอันดามัน-อ่าวไทย คลื่นสูง 1-2 ม.

กทม. 3 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนน้อย ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทย คลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง – สำนักข่าวไทย

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]