กรุงเทพฯ 6 มิ.ย.- กรุงเทพฯ 6 มิ.ย.- อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เผย กำลังรอการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ภาค 5 เพื่อชี้ขาดว่า 5 โครงการสวัสดิการของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลฯ เข้าลักษณะธุรกิจประกันชีวิตหรือไม่ จึงต้องหยุดการจ่ายเงินสวัสดิการไว้ก่อน พร้อมแนะวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง รวมถึงแนวการจ่ายเงินคืนสมาชิกตามกรอบของกฎหมาย
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวถึงการที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด ขอหารือแนวทางการจ่ายคืนเงินแก่สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการจัดสวัสดิการ 5 โครงการ ต่อมาสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ ปฏิบัติการแทนนายทะเบียนสหกรณ์สั่งให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด ชุดปัจจุบัน ระงับการจ่ายเงินสวัสดิการโครงการทั้ง 5 ไว้ก่อน เนื่องจากอาจมีลักษณะเข้าข่ายธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งสหกรณ์ฯ ไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจเช่นนี้ หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535
สำหรับโครงการสวัสดิการที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด จัดตั้งขึ้น ประกอบด้วย
1) สวัสดิการสงเคราะห์สมาชิกและครอบครัวสมาชิก โครงการ 1 หรือ ส.ค.ส. 1
2) โครงการสวัสดิการ ส.ค.ส. 2
3) โครงการสวัสดิการ ก.ส.ค.
4) โครงการสวัสดิการ ก.น.ส.
5) โครงการสวัสดิการร่มเกล้าไทรทอง
ทั้งนี้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานีได้หารือไปยังคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ภาค 5 ซึ่งเป็นหน่วยงานตามพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 วินิจฉัยว่า สวัสดิการทั้ง 5 โครงการดังกล่าวเข้าลักษณะธุรกิจประกันชีวิตหรือไม่ รวมถึงการดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวจะผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร เพื่อจะได้นำแนวทางตามข้อหารือไปแนะนำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด ถือปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป ในระหว่างนี้ สหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานีมีคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ (อบ) 22/2566 สั่ง ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 สั่งให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด ชุดปัจจุบัน ระงับการจ่ายเงินสวัสดิการโครงการทั้ง 5 ไว้ก่อน
นายวิศิษฐ์กล่าวว่า หากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ภาค 5 มีคำวินิจฉัยว่า สหกรณ์ฯ ไม่สามารถดำเนินการตามสวัสดิการได้ สหกรณ์ฯ สามารถถอนเงินสวัสดิการของสมาชิกที่โอนเข้าเป็นทุนสำรองของสหกรณ์ได้เป็นไปตามแนวทางที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้เคยให้แนวทางการจ่ายคืนเงินที่รับบริจาคเข้ากองทุนสำรองของสหกรณ์ว่าการนำเงินสมทบของสมาชิกเข้ากองทุนสำรอง ไม่ถือเป็นเงินอุดหนุน และไม่เป็นเงินที่มาจากการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี สหกรณ์จึงสามารถถอนเงินของผู้เข้าร่วมโครงการจากทุนสำรองคืนให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ โดยไม่ต้องห้ามตามมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สำหรับวิธีปฏิบัติทางบัญชีสหกรณ์ต้องโอนกลับบัญชีทุนสำรองกับบัญชี…(ที่รับเงินบริจาคมาครั้งแรก) ซึ่งสหกรณ์ได้บันทึกไว้เมื่อโอนทุนดังกล่าวเข้าทุนสำรองของสหกรณ์ และเมื่อสหกรณ์จ่ายเงินคืนให้กับสมาชิกให้บันทึกลดยอดบัญชี…(ที่รับเงินบริจาคมาครั้งแรก) และให้สหกรณ์เปิดเผยข้อมูลไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ซึ่งขณะนี้สหกรณ์ฯ ยังไม่ได้มีการจ่ายคืนเงินบริจาคแก่สมาชิก เนื่องจากรอคำวินิจฉัยจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ภาค 5 มีคำวินิจฉัย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา สหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่วิสามัญของสหกรณ์ออม ทรัพย์ครูอุบลราชธานี จำกัด ณ ห้องประชุมสหกรณ์ฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง และเหตุผลในการมีคำสั่งให้สหกรณ์ฯ ระงับ โครงการดังกล่าวให้แก่ผู้แทนสมาชิกได้รับทราบ เพื่อให้ผู้แทนสมาชิกได้เข้าใจ และนำข้อมูลไปถ่ายทอดทำความเข้าใจแก่ สมาชิกในสังกัดต่อไป
หลังจากนี้ สหกรณ์ฯ อาจจะจัดให้มีสวัสดิการแก่สมาชิกทุกคนอย่างทั่วถึง โดยต้องพิจารณาจากฐานะของสหกรณ์ฯ และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต และต้องไม่ขัดต่อระเบียบ ข้อบังคับของสหกรณ์ และกฎหมายอื่นด้วย.-สำนักข่าวไทย