สหกรณ์การเกษตรเมืองพล สนองนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” หนุนสมาชิกปลูกเมล่อนญี่ปุ่น

24 เม.ย. – สหกรณ์การเกษตรเมืองพล จำกัด จังหวัดขอนแก่น สนองนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” หนุนสมาชิกปลูก “เมล่อนญี่ปุ่น” สร้างรายได้ หลุดวงจรหนี้


ภายหลังที่นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามการดำเนินงานของสหกรณ์การเกษตรเมืองพล จำกัด อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้กำลังใจและแนะนำดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ แก่เจ้าหน้าที่สหกรณ์และสมาชิก เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์การตลาดที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐให้เต็มศักยภาพ ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมแปลงปลูกเมล่อนของนายสาธิต กระฉอกนอก สมาชิกสหกรณ์การเกษตรเมืองพล จำกัด ที่หมู่ 1 ตำบลหนองแวงโสกพระ อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น เพื่อดูความสำเร็จจากการดำเนินงานตามนโยบายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่มุ่งสนับสนุนให้สหกรณ์ส่งเสริมการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ และช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิกสหกรณ์

นางสาวณัฐชา เลาหะวณิช รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มจัดตั้งและส่งเสริมสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ของนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ในครั้งนี้ว่า เพื่อมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ในการติดตามงานโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จากจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร และกองทุนพัฒนาสหกรณ์ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง


“ท่านอธิบดีได้เน้นย้ำว่าการพัฒนาแหล่งน้ำ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่สุดในการทำเกษตร ถ้าตัวสมาชิกสหกรณ์มีแหล่งน้ำแล้ว ก็จะสามารถทำการเกษตรในสิ่งที่เขาอยากทำได้ และควรส่งเสริมให้ปลูกพืชที่หลากหลาย ทำเกษตรแบบผสมผสาน แทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เพราะจะเป็นทางรอดและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกร ” นางสาวณัฐชาเผย และยอมรับว่าปัญหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในจังหวัดขอนแก่นนั้น บางพื้นที่ก็มีปัญหาสภาพน้ำกร่อย ทำการเกษตรไม่ได้ เช่นพื้นที่อำเภอหนองสองห้อง อำเภอพล อำเภอแวงน้อย เป็นต้น ส่วนพื้นที่อื่นไม่มีปัญหา ใช้น้ำได้ตามปกติ โดยเกษตรกร ในจังหวัดขอนแก่นส่วนใหญ่ มีอาชีพทำนา ปลูกอ้อย และปลูกมันสำปะหลัง

สำหรับสหกรณ์การเกษตรเมืองพล จำกัด เป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่พิเศษ ปัจจุบันมีสมาชิก 7,097 คน ทุนดำเนินงานมากกว่า 661 ล้านบาท ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้สนับสนุนเงินทุนจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้กับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเมืองพล จำกัด ซึ่งสหกรณ์ได้ดำเนินการส่งเสริมอาชีพให้สมาชิก ผ่านโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เช่น โครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโค – กระบือ และโครงการส่งเสริมอาชีพการปลูกเมล่อน ซึ่งอยู่ระหว่างเริ่มดำเนินการ ปัจจุบันมีสมาชิกส่วนหนึ่งที่ปลูกแล้วกำลังจะนำผลผลิตออกจำหน่าย ซึ่งสหกรณ์จะขยายผลสู่สมาชิกรายอื่น ๆ ต่อไป

นอกจากนี้ สหกรณ์ยังได้รับสนับสนุนงบประมาณในการสร้างปัจจัยพื้นฐานเพื่อรวบรวมและจัดเก็บข้าวเปลือกคุณภาพ ปี 2561 จำนวน 2,988,580 บาท ได้แก่ ฉาง ลานตาก เครื่องชั่งพร้อมโรงคลุม เป็นต้น


“สหกรณ์แห่งนี้เพิ่งส่งเสริมอาชีพสมาชิกอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อก่อนปล่อยสินเชื่ออย่างเดียว เพราะเขาคิดว่าทำธุรกิจแค่ปล่อยสินเชื่ออย่างเดียวไม่ต้องทำอะไร แล้วพอถึงจุด ๆ หนึ่งมันไปต่อไม่ได้ สมาชิกประสบปัญหาเรื่องรายได้ ไม่มีเงินชำระหนี้คืนสหกรณ์ กลายเป็นหนี้ค้าง สหกรณ์ก็เลยปรับบทบาทใหม่หันมามุ่งการส่งเสริมอาชีพแก่สมาชิก”

นางสาวณัฐชา เผยเมล่อนน่าเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์นี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผลผลิตมีคุณภาพสูงและมีตลาดรองรับแน่นอน โดยเฉพาะตลาดไทขณะนี้มีคำสั่งซื้อเข้ามา 15,000 กิโลกรัม ขณะที่ผลผลิตยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ

“ตอนนี้สมาชิกเขาอยากได้โรงเรือนเพิ่ม ถ้าไม่มีจะปลูกช่วงหน้าฝนไม่ได้ วันนั้นท่านอธิบดีเข้าไปดูที่แปลงเมล่อนของเกษตรกร ก็พูดคุยกันในเรื่องนี้ด้วย จะช่วยทำโรงเรือนให้เขา เพื่อจะปลูกเมล่อนได้ตลอดทั้งปี ขณะนี้มีสมาชิกที่อยู่ใกล้เคียงหลายรายได้เห็นตัวอย่างก็ให้ความสนใจ บางรายเดิมเขาปลูกอินทผาลัมอยู่ก่อนแล้ว พอมาเห็นทางนี้ปลูกเมล่อน ก็สนใจ เพราะตลาดต้องการสูง ขณะที่ตัวสมาชิกเองก็มีที่ดินพร้อมอยู่แล้ว”

ขณะที่นายสาธิต กระฉอกนอก สมาชิกสหกรณ์การเกษตรเมืองพล จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในเกษตรสมาชิกสหกรณ์ที่ปลูกเมล่อน หลังเริ่มต้นทดลองปลูกมาได้ 1 ครอบ บนเนื้อที่ 2 ไร่เศษจากพื้นที่ทั้งหมด 80 ไร่ ปรากฏว่าได้ผลเกินคาด ใช้ระยะเวลาปลูกตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการเก็บเกี่ยวประมาณ 85 วัน สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 15,000 กิโลกรัม ผลผลิตเกือบทั้งหมดส่งขายตลาดไท ราคาส่งกิโลกรัมละ 45 บาท ส่วนที่เหลือขายผ่านออนไลน์และวางขายหน้าสวน สามารถสร้างรายได้มากถึง 675,000 บาท เมื่อหักต้นทุนการผลิตแล้ว มีกำไรอยู่ที่ 454,000 บาท

“ตอนที่ท่านอธิบดีมาดู ผมก็เรียนท่านไปว่า อยากได้โรงเรือนเพิ่ม ท่านก็โอเคบอกอยากสนับสนุนเต็มที่ ท่านก็รับปากว่าจะให้ทางสหกรณ์ดำเนินการให้” นายสาธิตเผยถึงการสนทนากับอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ระหว่างนำคณะลงพื้นที่เยี่ยมแปลงปลูกเมล่อน

นายสาธิตเผยต่อว่า ขนาดโรงเรือนที่ต้องการ กว้าง 9 เมตร ยาว 80 เมตร ค่าใช้จ่ายตกหลังละ 3 แสนบาท สามารถปลูกเมล่อนได้ 1,500 ต้น เบื้องต้นอยากได้ 3 โรงเรือน เพื่อจะได้กำหนดรอบการปลูกให้สามารถเก็บเกี่ยวได้เดือนละครั้ง แต่ตามแผนที่วางไว้อยากได้ 6 โรงเรือนเพื่อจะได้รอบการเก็บเกี่ยวอยู่ที่ 15 วันครั้ง ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 1 แปลงบนเนื้อที่ 2 ไร่เศษ(ไม่มีโรงเรือน) ใช้ต้นพันธุ์ปลูกประมาณ 15,000 ต้น

“ตอนนี้เมล่อนชุดแรกเก็บหมดแล้ว ต้นเดือนหน้าจะลงอีกชุดเป็นพันธุ์ญี่ปุ่น เนื้อมีสีเขียวและสีเหลือง ใช้เวลาปลูก ไม่เกิน 3 เดือน หน้าฝนสิ่งที่กังวลคือโรคและแมลง โดยเฉพาะโรคเชื้อรา แต่ถ้ามีโรงเรือนเราสามารถควบคุมอากาศ โรคและแมลงได้ ผมใช้กว้าง 9 เมตร ยาว 80 เมตรต่อหลัง ราคาตกหลังละ 3 แสนบาท 1 โรงใช้ต้นพันธุ์ 1,500 ต้น อยากได้ 3 โรงก่อน ถ้า 3 โรงเก็บได้ เดือนละครั้ง ถ้า 6 โรงเก็บ 15 วันครั้ง” สมาชิกสหกรณ์คนเดิมเผย

ด้านนายจำนงค์ บุญจันทร์ ผู้จัดการสหกรณ์สหกรณ์การเกษตรเมืองพล จำกัด กล่าวถึงการส่งเสริมอาชีพสมาชิก โดยผ่านโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งที่ผ่านมาสหกรณ์ได้สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่สมาชิกในหลากหลายโครงการ มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการทำเกษตรผสมผสาน โครงการเลี้ยงโค-กระบือ โดยการพาสมาชิกไปอบรมให้ความรู้ และพาไปดูงานตามสถานที่ต่าง ๆ ล่าสุดสหกรณ์ก็ได้เตรียมเงินทุนไว้สำหรับสมาชิกที่สนใจปลูกเมล่อนไว้แล้ว เนื่องจากเห็นว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่กำลังไปได้ดีและมีตลาดรองรับชัดเจน

“พืชตัวอื่นยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่เมล่อนมีตลาดชัดเจน ก่อนปลูกเราดูตลาดเป็นหลัก สมาชิกส่วนใหญ่ทำนาทำไร่ รายไหนสนใจเราจะขยายผลต่อไป อย่างคุณสาธิต เขาเป็นสมาชิกสหกรณ์มานาน ปกติมีอาชีพทำนาปลูกข้าวหอมมะลิอยู่แล้วก็ลองมาทดลองปลูกเมล่อนดู ปรากฏว่าได้ผลดีก็อยากขยายพื้นที่ปลูกเพิ่ม อยากได้โรงเรือนปลูกเพิ่ม เขาก็มาปรึกษากับทางสหกรณ์ สมาชิกรายอื่นก็เช่นกันถ้าสนใจปลูกเมล่อนหรืออยากทำอาชีพเสริมรายได้ก็เข้ามาคุยกับเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ได้ ส่วนเงินกู้อยู่ที่วัตถุประสงค์โครงการ ถ้าโครงการพิเศษอัตราดอกเบี้ยก็จะอยู่ที่ร้อยละ 3 หรือร้อยละ 7 ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของโครงการครับ” ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองพล จำกัด ย้ำทิ้งท้าย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]