สระแก้ว 4 เม.ย.- กรมปศุสัตว์ คุมเข้มปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน ล่าสุดร่วมกับตำรวจสระแก้วสกัดรถลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนจากกัมพูชา พบต้นทางสินค้ามาจากบราซิล จึงนำตัวชายชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะบรรทุกเนื้อหมูแช่แข็งกว่า 700 กก. ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากด่านกักกันสัตว์สระแก้ว ซึ่งร่วมกับตำรวจสกัดกั้นรถกระบะที่บรรทุกเนื้อสุกรเถื่อนแช่แข็งจากประเทศกัมพูชา ลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย ผ่านชายแดนในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
การจับกุมครั้งนี้ มีผู้แจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่า จะนำซากสุกรบรรทุกมากับรถยนต์กระบะโตโยต้า รีโว่ สีขาว ทะเบียน กทม. และจะนำไปส่งเพื่อจำหน่ายต่อในเขตกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสนธิกำลังทั้ง กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว เจ้าพนักงานตำรวจ สทล.5 กก.3 บก.ทล และเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์สระแก้ว วางกำลังตามเส้นทางที่คาดว่ารถคันนี้จะแล่นผ่าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.30 น. ชุดจับกุมพบรถคันดังกล่าวตรงตามที่ได้รับแจ้ง วิ่งผ่านมาบริเวณถนน 359 หลังที่ทำการ อบจ.สระแก้ว ชุดจับกุมได้ขับรถติตตามและเรียกให้หยุดรถ พร้อมทั้งแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อตรวจค้น
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้กระทำความผิดเป็นคนกัมพูชา ให้การว่า รับซากสุกรมาจากบริเวณแนวชายแดนติดต่อกับประเทศกัมพูชา ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีปลายทางกรุงเทพมหานคร จำนวน 779 กิโลกรัม บรรจุในหีบห่อกล่องกระดาษ ระบุว่า เป็นสินค้ามาจากประเทศรัสเซียและบราซิล ผู้กระทำความผิดไม่สามารถแสดงเอกสารการนำเข้าเนื้อสุกร และเอกสารการเคลื่อนย้ายซากสัตว์ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ จึงได้อายัดซากสุกรทั้งหมด รถกระบะ 1 คัน จากนั้นนำตัวผู้กระทำความผิดส่งที่ สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ ข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 18, 22, 31 และ 34 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 242, 244, 246 และ 247 และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับซากสุกรได้มอบให้ด่านกักกันสัตว์สระแก้วดำเนินการทำลายโดยการฝังกลบตามระเบียบกรมปศุสัตว์ ณ บริเวณด่านกักกันสัตว์สระแก้ว เรียบร้อยแล้ว
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า การป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสุกรเถื่อน เป็นไปตามนโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สั่งการให้กรมปศุสัตว์ดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร และป้องกันเชื้ออหิวาต์แอฟริกาสุกร (ASF) ที่อาจปนเปื้อนมากับชิ้นส่วนสุกร รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ซึ่งชิ้นส่วนสุกรที่ลักลอบนำเข้า ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากกรมปศุสัตว์ อาจมีสารตกค้าง เช่น สารเร่งเนื้อแดง หรือเชื้อโรคอื่นที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือพบเห็นการกระทำผิดด้านปศุสัตว์ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับข้อมูล หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยแจ้งผ่านแอปพลิเคชัน (Application) “DLD 4.0” ที่สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ในโทรศัพท์ทุกระบบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าดำเนินการตรวจสอบได้อย่างทันท่วงที.-สำนักข่าวไทย