fbpx

กรมปศุสัตว์เตือนห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงเลี้ยงโคขุน

กรุงเทพฯ 5 ม.ค. – กรมปศุสัตว์เตือนผู้เลี้ยงโคขุนห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง ย้ำมีโทษตามกฎหมาย อันตรายต่อผู้บริโภค พร้อมหารือภาคส่วนต่างๆ ออกมาตรการคุมเข้มห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง ตรวจสอบการขายสารเร่งเนื้อแดงผ่านออนไลน์ ตรวจหาการตกค้างในเนื้อโคและโคขุนส่งออก แล้วตรวจสอบย้อนกลับไปยังฟาร์มจนถึงแหล่งผลิต ตลอดจนจะบังคับใช้กฎหมายเพื่อปกป้องสุขภาพผู้บริโภคและสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศคู่ค้าในการส่งออกโค


นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้กำหนดมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงในโคขุน เพื่อปกป้องสุขภาพของผู้บริโภคในประเทศ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศคู่ค้าการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ได้หารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงโคพันธุ์บราห์มัน สมาคมผู้บำรุงพันธุ์โคพันธุ์บราห์มันแห่งประเทศไทย สมาคมโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสน สหกรณ์โคเนื้อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน จำกัด สมาคมบีฟมาสเตอร์แห่งประเทศไทย สหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อ จำกัด สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลาง โพนยางคำ จำกัด สมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทยฯ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติ บริษัท อิบรอฮีม แอนด์ บีฟ จำกัด บริษัท นิดา ฟู้ด จำกัด รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจการเลี้ยงโคเนื้อ เพื่อร่วมกันพิจารณามาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดง โดยได้กำหนดมาตรการ ดังนี้


– สอดส่องและจับกุมการขายสารเร่งเนื้อแดงผ่านช่องทางออนไลน์ โดยตั้งทีมเฉพาะกิจทางไซเบอร์ขึ้นมาดำเนินการ

– สุ่มเก็บตัวอย่างเนื้อโคเพื่อตรวจหาการตกค้างของสารเร่งเนื้อแดง หากพบจะตรวจสอบย้อนไปยังฟาร์มเลี้ยงโคและแหล่งผลิต

– สุ่มเก็บตัวอย่างปัสสาวะในโคขุนที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยใช้ชุดทดสอบภาคสนาม (strip test) เพื่อตรวจสอบการใช้สารเร่งเนื้อแดง


นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากสถานการณ์ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่แพงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะโคขุนที่ใช้ทั้งอาหารข้นและอาหารหยาบในการเลี้ยงเพื่อให้แลกเปลี่ยนเป็นเนื้อ เพื่อเป็นการลดต้นทุนเกษตรกรบางราย อาจนำสารเร่งเนื้อแดงไปผสมในอาหารสัตว์ เพื่อวัตถุประสงค์เร่งการเจริญเติบโต ลดปริมาณไขมันในเนื้อสัตว์ ตลอดจนเพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อ และทำให้เนื้อสัตว์สีแดงน่าบริโภค ซึ่งจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อสั่น กระตุ้นการเต้นของหัวใจ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ กระวนกระวาย วิงเวียนปวดศีรษะ ซึ่งในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ โรคลมชัก โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ตลอดจนหญิงมีครรภ์ จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ได้รับอันตรายจากสารเร่งเนื้อแดงที่ตกค้างในเนื้อสัตว์

ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางอาหาร (food safety) กำกับ ดูแลความปลอดภัย ในการผลิตสินค้าปศุสัตว์ตลอดห่วงโซ่ ตั้งแต่วัตถุดิบอาหารสัตว์ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โรงฆ่าสัตว์ โรงแปรรูป ตลอดจนสถานที่จำหน่าย และการส่งออก ซึ่งทุกขั้นตอนการผลิตต้องมีคุณภาพมาตรฐาน ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย มาตรฐานสากล หรือเงื่อนไขของประเทศคู่ค้า เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคภายในประเทศ รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศคู่ค้าการส่งออกผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ ที่ผ่านมาได้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการใช้สารเร่งเนื้อแดงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 สามารถจับกุมดำเนินคดีได้ 11 คดี มีโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ       

นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุน ห้ามนำสารเร่งเนื้อแดงมาใช้ในการเลี้ยงโค นอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้ว ยังส่งผลที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอีกด้วย และหากประชาชนพบเห็นผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการใช้สารเร่งเนื้อแดงในโค ให้แจ้งเบาะแสผ่าน Application DLD 4.0 หรือผ่านทางศูนย์รับข้อร้องเรียนกรมปศุสัตว์ โทรศัพท์ 02 6534444 ต่อ 2134.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช.อีกรอบ สอบตำรวจทำคดีเว็บพนันออนไลน์

“บิ๊กโจ๊ก” บุกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อีกครั้ง เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษหัวหน้าและคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดในคดีเว็บพนันออนไลน์ที่มีการทำคดีโดยมิชอบ

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย