กรุงเทพฯ 19 ธ.ค. – อธิบดีกรมชลประทานสั่งเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในภาคใต้จากสถานการณ์ฝนตกหนัก หลายพื้นที่มีปริมาณฝนสะสมสูงกว่า 300 มิลลิเมตร โดยบางพื้นที่มากถึง 400-500 มิลลิเมตร ล่าสุดเสริมเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำทำให้อ. หาดใหญ่น้ำลดแล้ว พร้อมย้ำยังต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงเนื่องจากกรมอุตุฯ แจ้งเตือนยังมีฝนถึงวันพรุ่งนี้
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า สั่งการให้โครงการชลประทานภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง จากการที่มีฝนตกหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบางพื้นที่ขอจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ตรัง และปัตตานี จึงได้สั่งการให้เร่งระบายน้ำออกโดยเร็วที่สุดตามที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เน้นย้ำให้ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนทันที
สำหรับฝนที่ตกในภาคใต้ระยะนี้ หลายพื้นที่ตกหนักต่อเนื่องจนทำให้ปริมาณน้ำฝนสะสม 3 วันที่ผ่านมาเกินกว่า 300 มิลลิเมตรเช่น จังหวัดปัตตานีปริมาณน้ำฝนสูงสุด 599 มิลลิเมตร จังหวัดนราธิวาส 527 มิลลิเมตร สงขลา 480 มิลลิเมตร พัทลุง 401 มิลลิเมตร เป็นต้น ซึ่งโครงการชลประทานในพื้นที่ได้ดำเนินการตามแผนรับสถานการณ์น้ำหลากอย่างเต็มกำลัง
ทั้งนี้ได้รับรายงานจากนายการุณ แปลงรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 16 ถึงสถานการณ์น้ำในจังหวัดสงขลาว่า ได้ระดมเครื่องจักรเครื่องมือและเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งทุกพื้นที่ โดยที่อ. หาดใหญ่ ได้นำเครื่องสูบน้ำระบบไฮดรอลิก ขนาดท่อ 42 นิ้ว อัตราการสูบน้ำ 3.5 ลูกบาศก์เมตร์/วินาที 1 เครื่องไปติดตั้งเสริมบริเวณซอยเพชรมาลัย 3 อ.หาดใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำออกจากเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ลงสู่คลองเตย ทำให้ระดับน้ำลดลงแล้ว ขณะที่เร่งระบายน้ำในคลองรัตภูมิ ด้วยการเปิดบานระบายฝายชะมวงและประตูระบายน้ำรัตภูมิเพิ่มขึ้น เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อ. รัตภูมิ
ส่วนจังหวัดพัทลุง มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ป่าบอน และ อ.ควนขนุน โครงการชลประทานพัทลุง ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 1 เครื่อง บริเวณหมู่ 2 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน เร่งระบายน้ำท่วมขัง
จังหวัดนครศรีธรรมราช บริเวณคลองท่าดีเกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมคลองและพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช สำนักงานชลประทานที่ 15 ได้เปิดประตูระบายน้ำคลองคูพาย ประตูระบายน้ำคลองป่าเหล้า ประตูระบายน้ำคลองนครน้อย และประตูระบายน้ำคลองไม้เสียบ เร่งระบายน้ำและลดผลกระทบน้ำท่วมที่เกิดขึ้น พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด
จังหวัดตรัง เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.ย่านตาขาว และ อ.ปะเหลียน โครงการชลประทานตรัง ได้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้าน อ.เมืองตรัง ได้ติดตามโครงการระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง หลังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่น้ำได้ไหลลงสู่ระบบระบายน้ำแม่น้ำตรัง และระบายลงสู่ทะเลตามลำดับ
ด้านจังหวัดปัตตานี ได้เกิดน้ำล้นตลิ่งในแม่น้ำปัตตานี ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.หนองจิก และ อ.เมืองปัตตานี โครงการชลประทานปัตตานี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ บริเวณโรงพยาบาลหนองจิก 2 เครื่อง โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 1 เครื่อง พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 3 เครื่อง และเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขนาด 36 นิ้ว อีก 1 เครื่อง บริเวณพื้นที่บ้านเขาตูม อ.ยะรัง รวมทั้งติดตามการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนปัตตานีอย่างใกล้ชิด
นายประพิศกล่าวว่า ย้ำให้โครงการชลประทานภาคใต้เฝ้าระวังเฝ้าระวังสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่จนถึงวันพรุ่งนี้ (20 ธ.ค.) จึงให้บริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม ตลอดจนประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนเพื่อเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลาก รวมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที.-สำนักข่าวไทย