กรมทช. เร่งแก้ปัญหาการระบาดของโรคปะการังแถบสีเหลือง

ชลบุรี 29 พ.ย. – อธิบดีกรมทช. นำตรวจติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคปะการังแถบสีเหลืองบริเวณ เกาะขามอ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เตรียมประกาศพื้นที่คุ้มครองและหารือภาคส่วนต่างๆ เพื่อเร่งแก้ปัญหา


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ดำน้ำเพื่อติดตามการระบาดของโรคปะการังแถบสีเหลืองบริเวณเกาะขาม จากนั้นระบุว่า ภายหลังจากที่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก (ศวบอ.) เรื่องการสำรวจระบบนิเวศแนวปะการังในปี 2564 – 2565 จำนวนทั้งสิ้น 90 สถานี ครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ในบริเวณอ่าวไทยตอนบนและตอนกลาง พบว่า โรคแถบสีเหลืองนั้นกระจายตัวอยู่ เฉพาะบริเวณเกาะสัตหีบ – แสมสาร จังหวัดชลบุรี จำนวน11 สถานี รายงานการพบโรคนี้เป็นการพบครั้งแรกในประเทศไทย ปะการังส่วนใหญ่ที่สำรวจพบว่า เป็นโรค ได้แก่ปะการังโขด และปะการังเขากวาง โดยปริมาณการพบคิดเป็นร้อยละ 1 – 10 ของปะการังทั้ง 2 ชนิด 

ขณะนี้ได้มีการกระจายตัวของโรคระบาดไปยังปะการังหลายชนิดเช่น ปะการังเขากวาง ปะการังโขด ปะการังลายดอกไม้ ปะการังดอกไม้ ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังวงแหวน ปะการังช่องเล็ก และปะการังช่องเหลี่ยม ซึ่งถือว่า การแพร่ระบาดของโรคในแนวปะการังเป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร จะต้องมีการวางแผนเพื่อศึกษาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะบริเวณที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคนั้นมีขนาดของพื้นที่รวม 1,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ใช้คำว่า โรคระบาด ซึ่งข้อมูลจากนักวิชาการของกรมทช. แจ้งว่า การระบาดที่เกิดขึ้นเป็นสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม Vibrio ซึ่งปะการังแต่ละชนิดก็จะเป็นแบคทีเรียที่แตกต่างกัน ภายหลังจากนี้จะมีการหารือร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อศึกษาและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กลไกของคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติเพื่อพิจารณาและกลั่นกรองร่วมกันนอกจากนี้กรมทช. ได้ทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ประกอบด้วย กองทัพเรือ จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอีกทั้งช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อทรัพยากรปะการัง


ทั้งนี้กรมทช. จะกำหนดขอบเขตเพื่อเตรียมประกาศพื้นที่คุ้มครอง พร้อมทั้งหารือร่วมกับอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลเพื่อหาทางออกหลังจากที่แปลงเพาะปลูกปะการังได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย พร้อมย้ำว่า การย้ายปะการังที่ไม่ได้รับผลกระทบออกจากปะการังที่ติดเชื้อจากแบคทีเรียนั้น เมื่อได้สำรวจแล้วพบว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก เพราะปะการังที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนมหาศาล จะต้องวางแผนเป็นอย่างดีและใช้กำลังพลเป็นจำนวนมากอย่างไรก็ตาม จะต้องหารือกับทีมนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านปะการังอีกครั้ง เพื่อช่วยกันหาแนวทางในการขนย้ายปะการังที่ติดเชื้อออกจากพื้นที่ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.