กรุงเทพฯ 5 ต.ค.- กรมชลประทานเร่งซ่อมบานระบายน้ำเขื่อนนเรศวร จ.พิษณุโลก ที่เสียหายจากการต้องเปิด-ปิดบ่อยครั้งในการหน่วงและผันน้ำแม่น้ำยมสู่แม่น้ำน่านช่วงน้ำหลาก ย้ำให้ปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เสร็จใน 2 วัน
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สั่งการให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานเรศวรเร่งซ่อมบานระบายน้ำของเขื่อนนเรศวร อ. พรหมพิราม จ. พิษณุโลก ให้เสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ได้รับรายงานจากนายวรพจน์ เพชรนรชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 ถึงสาเหตุที่ชำรุดว่า ฝนที่ตกหนักในลุ่มน้ำน่านและยม บริเวณเหนือเขื่อนนเรศวร ทำให้มีน้ำท่าไหลลงแม่น้ำทั้ง 2 สายเป็นปริมาณมาก โดยวันที่ 3 ตุลาคม ปริมาณน้ำสูงสุดที่อัตรา 1,017 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที วานนี้ (4 ตุลาคม) ที่สถานีวัดน้ำท่าแม่น้ำน่าน N.60 มีปริมาณการไหล 936.10 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมกันนั้นยังต้องผันน้ำจากแม่น้ำยมลงสู่แม่น้ำน่านเพื่อลดผลกระทบจากฝนที่ตกหนัก ส่งผลให้มีน้ำท่าสะสมอยู่ด้านเหนือเขื่อนนเรศวรเป็นปริมาณมาก
ในการบริหารจัดการน้ำที่สะสมอยู่ด้านเหนือเขื่อนนเรศวรต้องเปิด – ปิดบานระบายน้ำอยู่บ่อยครั้ง โดยถี่กว่าปกติเพื่อเป็นการหน่วงและผันน้ำตามจังหวะที่เหมาะสม ทำให้เกิดความเสียหายกับลวดสลิงของบานระบายน้ำ 1 บาน จาก5 บาน โดยอีก 4 บานยังสามารถควบคุมได้และไม่มีผลกระทบกับท้ายน้ำตั้งแต่ท้ายเขื่อนนเรศวรและตัวเมืองพิษณุโลก
ขณะนี้กำลังเร่งซ่อมแซมด้วยการใช้ Stoplogs บริเวณหน้าบานระบาย สูบน้ำออกจากช่องว่างระหว่าง Stoplogs และบานระบายที่จะซ่อมแซมตลอดเวลา จากนั้นจะผูกสลิงเข้ากับหูยึดบานระบายซึ่งจะปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง คาดจะแล้วเสร็จใน 2 วัน
ทั้งนี้ ในระหว่างซ่อมจะมีน้ำที่ไหลจากเขื่อนนเรศวรลงสู่แม่น้ำน่านเพิ่มขึ้น จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบแล้วสำหรับเขตเศรษฐกิจในอำเภอเมืองพิษณุโลกได้แจ้งให้ทางจังหวัด โดยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเทศบาลนครพิษณุโลก เตรียมกระสอบทรายมาป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่ท่อระบายและเข้าสู่เขตมือง พร้อมเตรียมเครื่องสูบน้ำสูบระบายในกรณีระดับน้ำในแม่น้ำน่านสูงและมีฝนตกในพื้นที่เพื่อให้สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่านได้.-สำนักข่าวไทย