6 ก.พ. – มณฑลกวางตุ้ง เร่งพัฒนาระบบอุตสาหกรรมทันสมัยที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติมากขึ้น
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นวันทำงานวันแรกของปีใหม่ทางจันทรคติปีมะเส็ง มณฑลกวางตุ้งได้จัดการประชุมว่าด้วยการพัฒนาคุณภาพสูงระดับมณฑลที่เมืองกว่างโจว เพื่อแลกเปลี่ยนและหารือเชิงลึกเกี่ยวกับการเร่งพัฒนาระบบอุตสาหกรรมที่ทันสมัย “การประชุมครั้งแรกของปีใหม่” ของมณฑลกวางตุ้ง เน้นหัวข้อการพัฒนาคุณภาพสูงต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งไม่เพียงตอกย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงต่อการสร้างความทันสมัยของกวางตุ้งมณฑลเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ที่เป็นรูปธรรมในการส่งเสริมการพัฒนาอีกด้วย
นายหวง คุนหมิง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคมณฑลกวางตุ้ง ได้กล่าวสุนทรพจน์ ส่วนนายหวาง เหว่ยจง ผู้ว่าราชการมณฑลกวางตุ้ง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยมีผู้เข้าร่วมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ นายหวง ฉู่ผิง ผู้อำนวยการคณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนประจำมณฑลกวางตุ้ง นายหลิน เค่อชิ่ง ประธานประธานคณะกรรมการ CPPCC ประจำจังมณฑลกวางตุ้ง นายหยาง ยิ่นไข่ รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการการเงินและเศรษฐกิจกลาง รองเลขาธิการคณะกรรมการพรรคมณฑลกวางตุ้ง และนายเมิ่ง ฝานลี่ เลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลเมืองเซินเจิ้น
นายหวง คุนหมิง ชี้ว่า การส่งเสริมความทันสมัยในแบบฉบับจีนจำเป็นต้องเสริมสร้างระบบอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ มณฑลกวางตุ้งมีภารกิจในการเป็นผู้นำและเป็นต้นแบบในการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมทันสมัย พร้อมสร้างมณฑลกวางตุ้งใหม่ด้วยระบบอุตสาหกรรมทันสมัยที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติมากขึ้น ระบบอุตสาหกรรมของมณฑลกวางตุ้งเติบโตจากการเปิดกว้างและความร่วมมือ พร้อมอัปเกรดอย่างต่อเนื่องผ่านการปรับเปลี่ยนรูปแบบ มณฑลกวางตุ้งจึงต้องมุ่งมั่นเป็นผู้นำในการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการปฏิรูปอุตสาหกรรมรอบใหม่ โดยยกระดับระบบอุตสาหกรรมอย่างรอบด้าน ให้หลุดพ้นจากกลุ่มอุตสาหกรรมระดับกลางและล่าง พิชิตห่วงโซ่อุตสาหกรรมขั้นสูง และใช้ระบบอุตสาหกรรมทันสมัยที่มีศักยภาพการแข่งขันระดับนานาชาติเพื่อผลักดันการพัฒนามณฑลกวางตุ้งในยุคใหม่ที่มีเศรษฐกิจและสังคมที่เจริญรุ่งเรืองและเต็มไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวา
นายหวง คุนหมิงกล่าวเพิ่มเติมว่า มณฑลกวางตุ้งมีระบบอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกสนับสนุนที่แข็งแกร่ง และอนาคตที่กว้างไกล โดยมีรากฐานที่มั่นคงและข้อได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ที่สะสมมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันจำเป็นต้องเปลี่ยนปัจจัยเหล่านี้ให้กลายเป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนา ในด้านหนึ่ง ควรให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างอุตสาหกรรมดั้งเดิมที่มีจุดแข็ง อีกด้านหนึ่งควรผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมเกิดใหม่และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โดยเน้นที่สองกลุ่มหลัก ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ พร้อมตั้งเป้าสร้างเสาหลักอุตสาหกรรมใหม่ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีขนาดใหญ่ นอกจากนี้ จำเป็นต้องดำเนินนโยบายสนับสนุนอย่างเต็มที่ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการร่วมมือกับฮ่องกงและมาเก๊าเพื่อเร่งสร้างฐานบุคลากรที่มีความสามารถระดับสูง โดยดำเนินโครงการ “รวบรวมบุคลากรที่มีความสามารถล้านคนเข้ามณฑลกวางตุ้ง” เพื่อเสริมสร้างฐานบุคลากรให้รองรับระบบอุตสาหกรรมทันสมัยในทุกด้าน
นายหวาง เหว่ยจง กล่าวว่า จำเป็นต้องผลักดันการยกระดับรากฐานของภาคอุตสาหกรรม ปรับปรุงห่วงโซ่อุตสาหกรรมให้มีความทันสมัย และเร่งสร้างระบบอุตสาหกรรมทันสมัยที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติมากขึ้น การพัฒนาเศรษฐกิจต้องยึดภาคเศรษฐกิจจริงเป็นพื้นฐานและภาคการผลิตเป็นแกนหลัก พร้อมทั้งเสริมสร้างและยกระดับคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์จำนวน 20 กลุ่ม มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเกิดใหม่และอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ เพื่อเพิ่มพลังการผลิตที่มีคุณภาพสูง นอกจากนี้ ควรส่งเสริมภาคส่วนต่าง ๆ พร้อมเร่งสร้างห่วงโซ่นวัตกรรมที่ครบวงจร เสริมศักยภาพการวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง และพัฒนาระบบแพลตฟอร์มสำหรับการทดสอบแนวคิดและนำร่อง ทั้งนี้ เพื่อสร้างศูนย์นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมที่มีอิทธิพลในระดับโลก. -116 สำนักข่าวไทย