อานิสงส์ กองทุนพัฒนาสหกรณ์ สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ เสริมแกร่งสมาชิกสหกรณ์

26 มิ.ย. – อานิสงส์ “กองทุนพัฒนาสหกรณ์” สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ เสริมแกร่งสมาชิกสหกรณ์กรป.กลาง นพค.บุรีรัมย์


“เหมือนได้ชีวิตใหม่” คำกล่าวสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ได้ใจความของ “กนกวรรณ มาประจวบ” เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตร กปร.กลาง นพค.บุรีรัมย์ จำกัด แห่งบ้านโคกใหญ่ ม.5 ต.ตาเป็ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ อดีตสาวโรงงานย่านชานเมืองกลับสู่บ้านเกิดที่จ.บุรีรัมย์ เมื่อ 4 ปีที่ก่อน โดยยึดอาชีพทำนา ปลูกผัก เลี้ยงปลา ตามประสาชาวบ้านหาเลี้ยงครอบครัวไปวัน ๆ

กระทั่งมีโอกาสเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตร กปร.กลาง นพค.บุรีรัมย์ พร้อมการให้คำแนะนำที่ดีจากเจ้าหน้าที่สหกรณ์ ทำให้เริ่มมีความหวังทั้งเรื่องอาชีพที่หลากหลายและมีรายได้เพิ่ม รวมถึงด้านการตลาดและการเข้าถึงแหล่งทุน โดยเริ่มจากขอกู้เงินจากโครงการสนับสนุนเงินทุนเพื่อสร้างระบบน้ำในไร่นา


โครงการดังกล่าว กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดสรรเงินกู้ให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร นำไปปล่อยกู้แก่สมาชิกแบบปลอดดอกเบี้ย กนกวรรณจึงขอกู้มาพัฒนาระบบน้ำในผืนที่นาบนเนื้อที่ 3 ไร่ เพื่อให้สามารถ ปลูกผัก เลี้ยงปลาได้ ไม่ใช่แค่ทำนาอย่างเดียว

“มีที่ทั้งหมด 9 ไร่ ทำนาอย่างเดียว ปลูกข้าวหอมมะลิ 105 ปีละครั้ง หลังเก็บเกี่ยวก็ปล่อยว่างก็ไม่ได้ใช้ทำอะไร ปัญหาก็คือน้ำไม่มี ปลูกอะไรก็ไม่ได้ หลังเข้าไปปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯ เขาก็บอกว่ามีกองทุนให้สมาชิกกู้ยืมในโครงการสร้างระบบน้ำในไร่นา เราก็กู้มา 5 หมื่นบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการขุดบ่อเลี้ยงปลา ทำระบบน้ำในแปลงปลูกพืชผักพื้นบ้านต่าง ๆ เช่น หอม ผักชี บวกหอม บวบงู ส่วนในบ่อก็เลี้ยงปลานิล โดยใช้เนื้อที่ 3 ไร่ เพื่อเป็นการทดลองก่อน ส่วนอีก 6 ไร่ยังทำนาปลูกข้าวเช่นเดิม” กนกวรรณ เผย

ใช้เวลา 2 ปี กว่าเริ่มตั้งแต่ทำเรื่องกู้ยืมเงินสหกรณ์ในโครงการฯ มาเป็นค่าใช้จ่ายในการพลิกฟื้นที่นามาเป็นแปลงเกษตรไร่นาสวนผสม จนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิต ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่ใช่แค่รอรายได้จากการทำนาปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว ในที่สุดก็สามารถนำเงินที่กู้มาจำนวน 5 หมื่นบาทส่งคืนสหกรณ์จนหมด


จากนั้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา เธอได้ทำการกู้ใหม่อีกครั้งในโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพสมาชิกสหกรณ์จำนวน 30,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี รวมระยะเวลา 1 ปีโดยกำหนดส่งคืนทั้งหมดภายในวันที่ 31 มกราคม 2568 เพื่อนำเงินก้อนดังกล่าวมาต่อยอดของเดิมและขยายพื้นที่เพิ่มเติมอีก 3 ไร่ รวมเป็น 6 ไร่ เหลือพื้นที่ไว้ปลูกข้าวเพียง 3 ไร่

“3 หมื่นที่กู้เอามาขยายพื้นที่เพิ่มจากเดิมมีแค่ 3 ไร่ ขยายเพิ่มอีก 3 ไร่ ขุดสระเพิ่มอีกลูก แต่ไม่เสียเงิน เขาขุดให้ฟรี แต่เขาเอาดินไป เราได้บ่อน้ำ เงินที่กู้ก็เอามาซื้อเมล็ดพันธุ์ผัก ซื้อลูกปลานิลลงไว้ 5,000 ตัว เมื่อปลายกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตอนนี้เริ่มจับขายได้บ้างแล้ว แต่ตัวยังไม่ใหญ่มาก 3-4 ตัวโล ส่วนเรื่องตลาดไม่กังวล ทางสหกรณ์เขาจะดูแลให้จับเมื่อไหร่แจ้งล่วงหน้า 2 วัน จะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ่อ ส่วนผักที่ปลูกจะเป็นผักอินทรีย์ส่งให้กับทางสหกรณ์ ตอนนี้ส่งสัปดาห์ละ 2 วัน อังคารกับพฤหัส”

เธอยอมรับว่าผักที่ขายเองกับส่งให้กับทางสหกรณ์จะได้ราคาที่ต่างกัน อย่างเช่น บวบงู ขายเองราคากิโลกรัมละ 10 บาท แต่ส่งให้ทางสหกรณ์จะรับซื้อกิโลกรัมละ 26 บาท หรืออย่างชะอมขายเองกิโลกรัมละ 20-25 บาท ถ้าส่งให้สหกรณ์จะได้ราคากิโลกรัมละ 100 บาท ทำให้ผลผลิตที่ได้จะส่งขายให้กับทางสหกรณ์เกือบทั้งหมด เนื่องจากเราไม่เก่งเรื่องการตลาดภายนอกจะขายในตลาดตามหมู่บ้านอย่างเดียว

ด้านอภิชัย จันทร์ศักดิ์ เจ้าหน้าที่สินเชื่อของสหกรณ์การเกษตร กรป.นพค.บุรีรัมย์ จำกัด กล่าวถึงโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพสมาชิกสถาบันเกษตรกรว่า สหกรณ์ฯ ได้ทำการกู้เงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ หรือ กพส. จำนวน 2 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี เมื่อเดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา จากนั้นได้นำมาทำการปล่อยให้สมาชิกในโครงการฯ กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ขณะนี้มีสมาชิกทั้งหมด 801 ราย แต่มีสมาชิกที่สนใจขอกู้ไปทั้งสิ้น 57 ราย รายละ 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,710,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 290,000 บาท ได้ส่งคืน กรมส่งเสริมสหกรณ์ไปเรียบร้อยแล้ว

“สมาชิกที่กู้ไปจะต้องแจ้งก่อนว่าเอาเงินก้อนนี้ไปทำเกี่ยวอะไร โดยคณะกรรมการฯจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 2 สัปดาห์ พร้อมกับลงพื้นที่ดูความเป็นไปได้นำมาประกอบในการพิจารณาในการกู้เงิน สมาชิกกู้ไปปลูกผักอินทรีย์ 6 ราย เลี้ยงปลานิล 10 ราย ส่วนที่เหลือเลี้ยงโค โดยส่วนใหญ่ซื้อลูกโคมาขุนต่ออีกสักปีก็ขาย ผักอินทรีย์ที่ปลูกส่วนใหญ่เป็นผักบุ้ง ผักชี มะเขือ บวบหอม บวบ บางรายปลูกไปแล้วเราก็มาส่งเสริมให้ปลูกเพิ่ม เลี้ยงปลา เลี้ยงโคก็เช่นกัน” เจ้าหน้าที่สินเชื่อคนเดิมระบุ

อภิชัย เผยต่อว่า สำหรับเรื่องการตลาดนั้น ทางสหกรณ์จะรับดูแลทั้งหมด โดยผักอินทรีย์ได้เชื่อมโยงกับสหกรณ์การเกษตรโนนสุวรรณ จำกัด ส่งขายให้กับเอิร์ธเซฟและห้างโรบินสันสาขาบุรีรัมย์ ส่วนปลากับโคก็ไม่มีปัญหา เพียงแค่สมาชิกแจ้งเข้ามายังสหกรณ์ล่วงหน้า 2-3 วัน ทางสหกรณ์ก็จะประสานไปยังพ่อค้าให้มารับซื้อถึงที่เช่นกัน

“เงินก้อนนี้จะส่งคืนจนถึง 31 ม.ค.68 จากนั้นสมาชิกรายใดที่สนใจกู้ใหม่ก็สามารถทำเรื่องกู้ได้ เพราะเป็นเงินหมุนเวียนในโครงการเงินกู้ระยะสั้นปีต่อปี” เจ้าหน้าที่สินเชื่อคนเดิมย้ำทิ้งท้าย

นับเป็นความสำเร็จของสหกรณ์การเกษตร กปร.กลาง นพค.บุรีรัมย์ จำกัด ที่นำเงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์มาใช้ประโยชย์เพื่อพลิกฟื้นชีวิตเกษตรกรสมาชิกให้กินดีอยู่ดี ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพเกษตรของสมาชิกสหกรณ์ .

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 24 พ.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฉบับที่ 7 ทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก ถึง 27 พ.ค.นี้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568) ในช่วงวันที่ 24-27 พฤษภาคม 2568 ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบน จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้วันที่ 24 พฤษภาคม 2568ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ […]

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก “เดวิด” 1 เดือน คดีทำร้ายหมอ

ภูเก็ต 23 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ภาค 8 กลับคำพิพากษา จำคุก “เดวิด” ทำร้ายร่างกายหมอ 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ชี้เป็นการกระทำร้ายแรง ส่วนจำเลย พบเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว กรณี พญ.ธารดาว หรือ หมอปาย ยื่นฟ้อง นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างในจังหวัดภูเก็ต ในคดีทำร้ายร่างกาย โดยใช้เท้าเตะเข้าที่บริเวณด้านหลังของหมอปาย ขณะนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่บริเวณหน้าบันไดวิลลาหรู ชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.68) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะทนายความคดีดังกล่าว เปิดเผยว่าวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษากลับ ให้นายเดวิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรง จำคุก 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตามคดีนี้ […]

กสทช.สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยา เหตุสัญญาณขัดข้อง

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – สำนักงาน กสทช. สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ จากเหตุสัญญาณขัดข้อง ห้ามคิดค่าบริการช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้งานไม่ได้-ให้เพิ่มดาต้ามากกว่า 10 GB-โทรฟรีมากกว่า 100 นาที ไม่จำกัด ภายใน 24 ชม. แยกเยียวยาลูกค้ารายเดือน-เติมเงิน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้เชิญบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เข้าร่วมประชุมด่วนในวันนี้ โดยสำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้บริษัท ทรูฯ ทบทวนมาตรการเยียวยาชดเชยผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ตขัดข้อง ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากบริษัท ทรูฯ […]