กอช. จัดงานวันออมแห่งชาติ ส่งเสริมออมอาชีพอิสระมีเงินบำนาญใช้ในอนาคต

“กอช. จัดงานวันออมแห่งชาติ มอบรางวัลหน่วยงานภาคีเครือข่าย ส่งเสริมการออมให้อาชีพอิสระ มีเงินบำนาญใช้ในอนาคต พร้อมเชิญชวนผู้ที่มีสิทธิ สมัครสมาชิก รับเงินสมทบเพิ่ม สูงสุด 1,800 บาท/ปี”


กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. จัดงานมอบรางวัลส่งเสริมการออมยอดเยี่ยม ประจำปี 2566
เนื่องในงานวันออมแห่งชาติ ในวันที่ 30 ตุลาคม 2566 เพื่อขอบคุณเครือข่าย หน่วยรับสมัครสมาชิก กอช. มุ่งสร้าง การตระหนักรู้ถึงการออมเงินกับ กอช. เพื่อวัยเกษียณให้กับตนเองและคนในครอบครัว

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การออม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออมเพื่อการเกษียณเป็นส่วนสำคัญในการขยายโอกาสและเสริมสร้างความเสมอภาคในสังคม เพื่อให้ประชาชนมีหลักประกันและความมั่นคงในการดำรงชีวิตหลังเกษียณอายุ จากการทำงานตลอดหลายปีที่ผ่านมา ภาครัฐได้พยายามผลักดันนโยบายส่งเสริมการออม เพื่อให้ประชาชนวัยแรงงานจำนวนราว 39 ล้านคน เข้าสู่ 2 วัยเกษียณอย่างมีคุณภาพ มีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ด้วยระบบการออมเพื่อการเกษียณในรูปแบบการออมทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจ


สำหรับผู้ที่เป็นแรงงานในระบบมีช่องทางการออมภาคบังคับ ได้แก่ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการและประกันสังคมมาตรา 33 อีกทั้ง มีช่องทางการออมภาคสมัครใจสำหรับบุคคลทั่วไป รวมถึงพนักงานรัฐวิสาหกิจและลูกจ้างประจำส่วนราชการคือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สำหรับแรงงานนอกระบบหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งยังไม่มีการออมภาคบังคับ มีการออมภาคสมัครใจที่รัฐจัดให้คือ ประกันสังคมมาตรา 40 และอีกกลไกหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากคือ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ที่ปัจจุบันดูแลสมาชิกอยู่มากกว่า 2.5 ล้านคน ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา
ในการสร้างสรรค์กลไกสวัสดิการภาครัฐ ที่จัดให้แรงงานนอกระบบที่ไม่มีสวัสดิการอื่นใดรองรับ ให้ได้มีโอกาสรับบำนาญในยามเกษียณเหมือนแรงงานในระบบจากเงินออมสะสมและเงินสมทบ รวมถึงการดำเนินงานของ กอช. ยังมีบทบาทสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนา

เนื่องในวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี เป็น “วันออมแห่งชาติ” ซึ่งการสร้างเสริมวินัยการออมให้กับประชาชน สอดคล้องกับภารกิจหลักของ กอช. คือ การส่งเสริมและสร้างวินัยการออมให้กับประชาชนทุกคนที่ประกอบอาชีพอิสระ
เข้าสู่การออมเงินเพื่อการเกษียณอย่างเป็นระบบกับ กอช. ซึ่งเป็นการสร้างสวัสดิการที่จำเป็นให้กับประชาชนได้มีเงินไว้ใช้ เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างมีคุณภาพ

โดย กอช. ได้จัดงานขึ้นในวันที่ 30 ตุลาคม 2566 เพื่อมีการมอบรางวัลเกียรติยศแก่หน่วยงานความร่วมมือสนับสนุนส่งเสริมการออม และรางวัลผลงานส่งเสริมการออมยอดเยี่ยมแก่องค์กร หน่วยงานที่ดำเนินการประชาสัมพันธ์ พร้อมขับเคลื่อนการเพิ่มจำนวนสมาชิก กอช. ดีเด่น ในช่วงเดือนมกราคม – กันยายน 2566 เป็นต้นมา และเพื่อเป็นเกียรติแก่หน่วยงานความร่วมมือที่มีการส่งเสริมวินัยการออมกับ กอช. ยอดเยี่ยม ที่ได้ร่วมกันส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีวินัยในการออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณกับ กอช.


นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า กอช. มีภารกิจในการส่งเสริมการออมทรัพย์ให้กับประชาชนที่เป็นแรงงานนอกระบบ หรือที่เรารู้จักกันว่า ผู้ประกอบอาชีพอิสระ จุดมุ่งหมายสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้ชีวิตของประชาชนกลุ่มนี้ ได้ใช้สิทธิสวัสดิการจากภาครัฐอย่างทั่วถึง

การออมกับ กอช. ขั้นต่ำเพียง 50 บาท/ครั้ง สูงสุด 30,000 บาท/ปี พร้อมรับเงินสมทบจากรัฐ สูงสุด 100% หรือ ไม่เกิน 1,800 บาท/ปี การออมกับ กอช. เป็นการออมภาคสมัครใจ ผู้ที่เป็นสมาชิก กอช. สามารถออมเงินได้ตามบริบทของชีวิต คือ ออมได้เมื่อพร้อม สิทธิการเป็นสมาชิกยังคงอยู่เช่นเดิม ซึ่งสะท้อนให้เห็นจำนวนสมาชิก กอช. ในปัจจุบัน มีจำนวนสมาชิก 2,552,607 คน

การดำเนินงานในปีที่ผ่านมา กอช. ได้พัฒนาช่องทางการให้บริการให้ประชาชนผู้สนใจ และช่องทางอำนวยความสะดวกให้สมาชิกเข้าถึงการออมกับ กอช. ในการสมัครสมาชิก หรือ ออมต่อเนื่องกับ กอช. ผ่านหน่วยบริการต่าง ๆ ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ สำนักงานคลังจังหวัด ธนาคารของรัฐ ทั้ง 5 แห่ง อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สถาบันการเงินชุมชน ตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน รวมทั้งไปรษณีย์ไทย สหกรณ์ชุมชนที่เข้าร่วม เซเว่น-อีเลฟเว่น เทสโก้โลตัส และตู้บุญเติม นอกจากนี้ ยังมีช่องทางออนไลน์ ผ่านสมาร์ทโฟน เพื่อให้เข้ากับเทคโนโลยี ในปัจจุบัน ได้ที่ ไลน์แอด กอช. “@nsf.th” แอปพลิเคชัน กอช. แอปพลิเคชัน เป๋าตัง แอปพลิเคชัน MyMo แอปพลิเคชัน K PLUS และแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT กอช. ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับสมาชิกที่ต้องการหลักประกัน เพื่อความอุ่นใจ โดยการจัดทำสมุดเงินออม (Passbook) ขึ้น ได้รับความร่วมมือจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน เป็นหน่วยรับให้บริการ ออกสมุดเงินออมให้แก่สมาชิก กอช. ได้อัพเดทความเคลื่อนไหวเงินออมของตนเองที่ออมกับ กอช.

ในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กอช. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ในการลงพื้นที่ส่งเสริมทักษะความรู้ทางการเงิน ให้ตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินที่ดี และส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระมีเงินออมยามเกษียณกับ กอช. ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีหน่วยงานทุกภาคส่วนเข้าร่วม อาทิ คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัด (คบจ.) ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. จังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัด ผู้แทนจากโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในจังหวัด รวมถึงครู นักเรียน บุคลากรทางการศึกษา สภาเด็กและเยาวชน และนายกสมาคมผู้ปกครองโรงเรียนมัธยมศึกษา

ในปัจจุบัน กอช. กำลังพัฒนาการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายของ กอช. ในระดับจังหวัด แต่ละพื้นที่ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนที่มีสิทธิในการสมัครเป็นสมาชิก กอช. ได้ใช้สิทธิในการรับเงินสมทบเพิ่มเมื่อออมเงินกับ กอช. ในการดำเนินงานของ กอช. ยังสอดรับกับแผนพัฒนา “ทักษะทางการเงิน ปี 2565 – 2570” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ในด้านนโยบายเสริมทักษะ มาตรการทางเศรษฐกิจ “แบบเจาะจง” ตามความเหมาะสมกับปัญหาของพื้นที่ หรือกลุ่มประชาชนหรือที่เรียกว่า Tailor-Made Policy ที่อาศัยประโยชน์จากการพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับก็คือ มีระดับทักษะทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีอย่างทั่วถึงมากขึ้น

จากการดำเนินงานที่ผ่านมา เพื่อเป็นการขอบคุณหน่วยงานความร่วมมือทุกหน่วยงาน ทั้งยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการร่วมแรงร่วมใจส่งเสริมการออมให้ประชาชนได้บำนาญถ้วนหน้า จึงมีการมอบรางวัลส่งเสริมการออมกับ กอช. ยอดเยี่ยม ประจำปี 2566 จำนวน 36 รางวัล ดังนี้
1.ประเภทรางวัลเกียรติยศ มอบแก่บุคคลและหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือสนับสนุน และส่งเสริมการออม เป็นที่ประจักษ์ชัด จำนวน 7 รางวัล
2.ประเภทรางวัลหน่วยงานการศึกษา 9 รางวัล
2.1. รางวัลหน่วยงานการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
2.1.1 รางวัลสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ประจำเขตตรวจราชการ 18 เขต ที่มียอดสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุด ประจำปี 2566 จำนวน 4 รางวัล
2.1.2 รางวัลสถานศึกษา สังกัดสำนักงานบริหารการศึกษาพิเศษ ที่มียอดสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุด ประจำปี 2566 จำนวน 1 รางวัล ได้แก่
2.2 รางวัลหน่วยงานการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
2.2.1 รางวัลสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่มียอดสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นสูงสุด ประจำปี 2566 จำนวน 4 รางวัล ได้แก่

  1. ประเภทรางวัลระดับประเทศ 2 รางวัล
    3.1 รางวัลจังหวัดที่มีจำนวนสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายสูงสุด ระดับประเทศ ประจำปี 2566
    3.2 รางวัลจังหวัดที่มีจำนวนสมาชิกออมต่อเนื่องเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายสูงสุด ระดับประเทศ
    ประจำปี 2566
  2. ประเภทรางวัลระดับจังหวัด 12 รางวัล
    4.1 รางวัลจังหวัดที่มีสมาชิกเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายสูงสุดระดับจังหวัด ประจำปี 2565 ตามภูมิภาค จำนวน 6 รางวัล
    4.2 รางวัลจังหวัดที่มีผลการดำเนินงานการส่งเสริมวินัยการออมดีเด่นที่มีสมาชิกออมต่อเนื่องเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายสูงสุด ประจำปี 2565 ตามภูมิภาค จำนวน 6 รางวัล
  3. ประเภทรางวัลระดับเครือข่ายที่มีผลการดำเนินงานการส่งเสริมวินัยการออมดีเด่น ประจำปี 2566
    5.1 รางวัลเครือข่ายที่เป็นหน่วยบริการสมาชิกส่งเสริมวินัยการออมดีเด่น จำนวน 4 รางวัล
    5.2 รางวัลมอบให้กับบุคคลที่เป็นเครือข่ายส่งเสริมการออม จำนวน 1 รางวัล
  4. รางวัลชนะเลิศการประกวดแต่งเพลง “ออมกับ กอช.” 1 รางวัล ทั้งนี้ กอช. ขอขอบคุณภาคีเครือข่าย และผู้เข้าร่วมรับรางวัลทุก ๆ ท่าน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนและส่งเสริมการออมให้กับสมาชิก โดย กอช. จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนา ส่งเสริมให้ประชาชนที่มีสิทธิสมัครเป็นสมาชิกให้ครอบคลุมทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่สนใจสมัครสมาชิก กอช. ตรวจสอบสิทธิได้ที่แอปพลิเคชัน “กอช” หรือไลน์ กอช. “@nsf.th”สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนเงินออม โทร. 02-049-9000
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมตัวเมืองน่าน-เขตเศรษฐกิจขยายวงกว้าง

น่าน 23 ก.ค. – ตอนนี้น้ำท่วมตัวเมืองน่าน รวมทั้งเขตเศรษฐกิจ ยังเพิ่มสูงขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ หลังระดับน้ำท่วมสูงเกิน 9 เมตร และทะลักเข้าท่วม .-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

ตอบโต้เขมร! ปิด 4 ด่าน หลังทหารเหยียบกับระเบิดขาขาดอีก 1 ราย

23 ก.ค.- ศบ.ทก. เห็นชอบให้ทัพภาค 2 ปิดด่านชายแดน-สถานที่ท่องเที่ยว 4 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (24 ก.ค.) หลังล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดอีกราย จากกระแสข่าวมีทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดบริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชาเมื่อเวลา 16.55 น. นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวจากศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงโดยกองทัพภาคที่ 2 ได้ปรึกษามาที่ ศบ.ทก. เพื่อขออนุญาตปิดด่านในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายแดน เพื่อเป็นการประท้วงกัมพูชา จากการลักลอบวางทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ศบ.ทก. เห็นชอบ ขณะเดียวกันจะส่งหนังสือประท้วงโดยใช้กลไก RBC และรายงานกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประท้วงต่อไป ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) จะปิดด่านชายแดนทั้งหมดในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสานใต้ของไทย หลังจากที่ฝั่งไทยมีการกำหนดเวลาเปิด-ปิด และในส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง 3 ปราสาท คือ ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย […]

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย