ทำเนียบรัฐบาล 18 พ.ค.-“พล.อ.ประวิตร” ประชุมบริหารจัดการน้ำ กำชับ 22 คณะกรรมการลุ่มน้ำขับเคลื่อนกลไกจัดการน้ำเชิงรุกระดับพื้นที่ สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ- แผนปฏิรูปประเทศ เน้นประชาสัมพันธ์ให้ปปช.มีส่วนร่วมมากขึ้น ลดความเสียหาย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และคณะกรรมการ 22 ลุ่มน้ำร่วมประชุมผ่านระบบ VTC ณ ห้องประชุม 301 ทำเนียบรัฐบาล โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า น้ำคือชีวิต การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศเป็นเรื่องที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ต้องการให้เกิดภาวะการขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภคทุกพื้นที่
“ขณะเดียวกันไม่ต้องการให้สูญเสียทรัพยากรน้ำโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น การเร่งขับเคลื่อนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ทั่วถึงและเป็นธรรม จึงเป็นเรื่องจำเป็นยิ่ง ที่ต้องช่วยกันเร่งดำเนินการเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ขณะนี้เรามีคณะกรรมการลุ่มน้ำครบทั้ง 22 ลุ่มน้ำแล้ว โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ทรงคุณวุฒิ องค์กรผู้ใช้น้ำ ทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม เป็นองค์กรสำคัญในการขับเคลื่อน โดยมีแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งมี พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ ปี 61 เป็นเครื่องมือในการทำงาน” พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กำชับให้คณะกรรมการลุ่มน้ำ เร่งจัดทำแผนแม่บทแต่ละลุ่มน้ำให้สอดคล้องเชื่อมโยงกับแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยให้บูรณาการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งให้จัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง น้ำท่วมและน้ำเสีย การบริหารจัดการความเสี่ยงและระบบเตือนภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากภาวะน้ำท่วมให้เป็นรูปธรรม สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยดำเนินการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
“ขอให้เน้นความสำคัญงานป้องกันเชิงรุก เพื่อลดและบรรเทาความเดือดร้อนและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน ขอให้ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และรณรงค์สร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวางไปพร้อมกัน เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำเชิงพื้นที่ที่ได้ประโยชน์ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพไปด้วยกัน ปีนี้ฤดูฝนมาเร็วคาดว่าปริมาณน้ำมากกว่าปกติ ขอให้คณะกรรมการลุ่มน้ำให้ความสำคัญร่วมขับเคลื่อนรองรับปัญหาเชิงพื้นที่ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น” พล.อ.ประวิตร กล่าว.-สำนักข่าวไทย