“หลวงปู่แสง” ย้ายมาจำวัดที่ จ.อำนาจเจริญ

ภูมิภาค 13 พ.ค. – “หลวงปู่แสง” ย้ายมาจำวัดที่ จ.อำนาจเจริญ แล้ว ด้านหลานแท้ๆ นำเอกสารการรักษาอาการอาพาธปี 62 ยืนยันป่วยโรคสมองฝ่อ เป็นอัลไซเมอร์จริง หลังถูกกล่าวหาปมฉาวสีกา ขณะที่บรรดาลูกศิษย์ยืนยันหลวงปู่เป็นเกจิอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาโดยตลอด

ความคืบหน้ากรณีหลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 98 ปี ถูกกล่าวหาปมฉาวสีกา หลังจากเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) แพทย์ออกมายืนยันว่า หลวงปู่แสง เป็นอัลไซเมอร์ กระแสเริ่มตีกลับมาที่ “หมอปลา” และนักข่าวที่เดินทางไปพร้อมคณะหมอปลา พบว่า ถูกสั่งพักงานจากต้นสังกัด เนื่องจากแสดงกิริยาไม่เหมาะสมขณะทำข่าว

หลังจากเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ลูกศิษย์ได้พาหลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 98 ปี ออกจากที่พักสงฆ์ดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร หลังจากเกิดเหตุการณ์ “หมอปลา” นำนักข่าวบุกวัด พร้อมนำคลิปวิดีโอกล่าวหา “หลวงปู่แสง” ล่าสุดทีมข่าวได้ข้อมูลว่า “หลวงปู่แสง” ย้ายมาจำวัดที่วัดป่าอรัญญาวิเวก ต.ไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เพื่อรักษาโรคอัลไซเมอร์ ทีมข่าวจึงได้ลงพื้นที่มาที่วัดดังกล่าว แต่ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากประตูวัดมีการคล้องโซ่และล็อกกุญแจอย่างแน่นหนา พร้อมติดป้ายขอปิดชั่วคราว มาตรการโควิด-19 และไม่มีใครยอมให้ข้อมูลว่า “หลวงปู่แสง” อยู่ด้านใน โดยวัดป่าอรัญญาวิเวก เป็นวัดที่ “หลวงปู่แสง” ได้ทำการบุกเบิกพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรือง สร้างแรงศรัทธาแก่ชาวบ้าน มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ที่ผ่านมาลูกศิษย์และพุทธศาสนิกชนเดินทางเข้ามากราบไว้ขอพรจาก “หลวงปู่แสง” จนแน่นวัดทุกวัน ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอำนาจเจริญ เข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยที่บริเวณทางเข้าวัดดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวทางหลายฝ่ายที่ศรัทธา “หลวงปู่แสง” ทั้งนักวิชาการด้านศาสนา “ทิดไพรวัลย์” จวกสีกาให้เลิกค่านิยมเข้าใกล้พระ ให้พระเป่าหัว รวมถึงลูกศิษย์หลวงปู่ ควรดูแลดีๆ ไม่ควรทำให้ท่านเสียหาย และต้องให้ความเป็นธรรมหลวงปู่ อายุเกือบ 100 ปีแล้ว ขณะที่ “ศรีสุวรรณ จรรยา” ก็ออกมาเตือน “หมอปลา” ว่า การร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือยอมต่อสิ่งใด มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท

ขณะที่เหล่าลูกศิษย์หลวงปู่แสง ต่างช่วยกันออกมายืนยันว่า “หลวงปู่แสง” เป็นเกจิอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาโดยตลอด จนมีลูกศิษย์เลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก อย่างนายวิจิตร ทองแก้ว อดีตนายกเทศมนตรีตำบลเดิด อ.เมืองยโสธร ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่แสง ไม่เชื่อว่าหลวงปู่จะมีเจตนากระทำตามคลิปที่เป็นข่าว เพราะหลวงปู่อายุมากแล้ว และคนที่เข้าไปหาหลวงปู่ก็มักจะอยากให้หลวงปู่จับหรือเคาะหัวให้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง และจะได้อาศัยบุญบารมีของหลวงปู่ ตนเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่แสง และคอยติดตามกราบไหว้หลวงปู่มาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2535 ส่วนประเด็นที่ว่า ร่างกายของหลวงปู่จะกลายเป็นธาตุนั้น หลวงปู่ไม่เคยพูดสักครั้ง มีแต่ลูกศิษย์พูดกันไปเอง และที่มีพระลูกวัดดื่มน้ำปัสสาวะของหลวงปู่นั้น ก็เป็นความเชื่อส่วนตัวของแต่ละบุคคล เราจะไปห้ามไม่ให้ดื่มก็ไม่ได้

ด้านนางทักษิณา ดีหอม อายุ 52 ปี หลานแท้ๆ ของหลวงปู่แสง ซึ่งอยู่ที่ จ.ขอนแก่น ได้นำเอกสารการเข้ารับการรักษาอาการอาพาธของหลวงปู่แสง ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2562 มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อยืนยันว่า หลวงปู่ป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ เป็นอัลไซเมอร์จริง ซึ่งเป็นหลักฐานที่ญาติของหลวงปู่แสง นำมายืนยัน และไม่เชื่อว่าหลวงปู่จะประพฤติตัวไม่เหมาะสม ตอนนี้คือช่วงสุดท้ายของหลวงปู่ ลูกหลานทุกคนเกิดความไม่สบายใจ สิ่งที่เกิดขึ้นมองว่า “หมอปลา” และนักข่าวที่ไป ศึกษาข้อมูลน้อยไปหรือไม่ เหมือนเป็นการจาบจ้วงพระผู้ทรงศีล เพราะหลวงปู่บวชมากว่า 80 พรรษาแล้ว อาการป่วยอัลไซเมอร์ของหลวงปู่นั้นเป็นมานานแล้ว จะเห็นได้ว่าตอนที่ “หมอปลา” พานักข่าวเข้าไป หลวงปู่ยังหลงๆ ลืมๆ ถามว่าพากันมาทำอะไร และนั่งนิ่ง ส่วนตัวไม่ได้ไปบ่อย นานๆ จะไปกราบหลวงปู่ แต่เมื่อวานลูกหลานก็ไปกันหลายคน ตอนนี้มองว่า การจัดการระบบภายในวัดนั้นยังไม่ดี ควรจะมีระบบการดูแลพระผู้ใหญ่ที่ดีกว่านี้ และอยากจะถาม “หมอปลา” ว่า เคยศึกษาข้อมูลประวัติของหลวงปู่หรือไม่ว่า ที่ผ่านมาหลวงปู่สร้างอะไรเอาไว้บ้าง

นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวทางกองบรรณาธิการข่าว ที่ส่งผู้สื่อข่าวลงไปทำข่าวในวันเกิดเหตุ ออกแถลงการณ์น้อมรับความผิด พร้อมลงโทษพนักงานแสดงกิริยาไม่เหมาะสม โดยระบุว่า ได้ตระหนักถึงข้อผิดพลาดดังกล่าว และต้องขออภัยเป็นอย่างสูงต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ทุกท่าน รวมถึงผู้ที่ได้ติดตามข่าว มา ณ ที่นี้ โดยทางกองบรรณาธิการข่าวได้มีการดำเนินการตักเตือน และพิจารณาสั่งพักงานผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวเป็นเวลา 7 วัน พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรมทันที โดยจะมีการกำหนดบทลงโทษเพิ่มเติมต่อไป

ขณะที่ “หมอปลา” หลังจากเมื่อวานได้ออกมาไลฟ์ชี้แจงทางเฟซบุ๊ก ภายหลังถูกกระแสตีกลับว่าจัดฉาก หิวแสงนั้น บอกว่า เรื่องนี้มีผู้เสียหายร้องเรียนและส่งคลิปมา จึงไปพร้อม ผอ.สำนักพุทธฯ เพื่อถามว่า จากที่ผู้เสียหายร้องเรียนมา มีข้อเท็จจริงขนาดไหน จากที่เห็นคลิปทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าจัดฉากหรือไม่ ยืนยันไม่ได้จัดฉาก ถ้าจัดฉากจะมีผู้เสียหายร้องเรียนมาเรื่อยๆ ได้อย่างไร หากไม่เชื่อสามารถสอบถามสำนักพุทธฯ ได้เลย เพราะ ผอ.สำนักพุทธฯ เข้าร่วมตรวจสอบด้วย

ด้านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ชาวจังหวัดเชียงราย ผู้สร้างวัดร่องขุ่น ออกมาเตือน “หมอปลา” ว่า ต้องระมัดระวัง ห้าวเหลือเกิน คิดหน่อย ใช้สติหน่อย ไม่ใช่ใครส่งคลิปมาก็ห้าวไป ลุยเลย บุกเลย พี่เป็นห่วง ที่ผ่านมาทำมาดีแล้ว ช่วยปกป้องพระศาสนา แต่การลุยแบบขาดสติ ดังได้ ก็ดับได้. – สำนักข่าวไทย