กรุงเทพฯ 9 พ.ค.-หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท.เผยจับตาเฟดขึ้นดอกเบี้ยนโยบายดันเงินเฟ้อขึ้นทั่วโลก หลังเจอเหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อ
ดร.สรพล ตุลยเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลท. เปิดเผยว่าเดือนพฤษภาคมนี้ เงินเฟ้อ นโยบายการเงินทั้งในสหรัฐ ในประเทศต่างๆ และในบ้านเรา เป็นสิ่งที่ต้องจับตามอง เนื่องจากค่อนข้างซับซ้อนมากขึ้น เพราะช่วงนี้ทางเฟดมีแรงกดดัน จากราคาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น พอน้ำมันเพิ่มจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนเงินเฟ้อก็ขึ้นตามด้วย จากเดิมที่เงินเฟ้อขึ้นจากดีมานด์ พอเศรษฐกิจขยายตัวดีมานด์กลับพุ่งขึ้นก่อนซัพพลาย ขณะที่ปัจจุบันเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้นจากซัพพลายก็ทำให้การตัดสินใจที่จะขึ้นดอกเบี้ยมันซับซ้อนขึ้น ขณะที่ทางเฟดเองก็ส่งสัญญาณชัดว่าต้องขึ้นตามแผน และในช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้ว ก็ส่งสัญญาณเพิ่มเติมว่าการขึ้นในลักษณะที่เป็นขึ้นอย่างเร็ว 75 basis points ไม่ได้อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการ Fed โดยรวม ซึ่งทำให้ตลาดเบาใจได้วันหนึ่งกระทั่งตัวเลขการจ้างงานออกมา ก็ทำให้คนสงสัยแล้วว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยที่จะไม่ขึ้นเร็วจะเอาอยู่มั้ย หรือการที่ขึ้นดอกเบี้ยช้าลง แสดงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่จะกระทบมั้ยทั้งนี้จุดนี้อาจจะไม่ใช่จุดสำคัญ เพราะการจ้างงานยังดีอยู่
”แต่ถ้าเราดูตัวเลขนโยบายการเงินของหลายประเทศ จะเห็นว่ามีความแตกต่างกันมากแล้วแต่บริบท อเมริกาขึ้นญี่ปุ่นไม่ขึ้น ไทยเองก็ไม่ได้ขึ้น ฉะนั้นการปรับขึ้นดอกเบี้ยตัวเลขที่ไม่เท่ากัน มันก็จะส่งผลต่อฟันโฟลว์ อัตราแลกเปลี่ยนและตลาดทุน ซึ่งต้องจับตามองต่อ”ดร.สรพล กล่าว
ส่วนการสร้างความต่อสนใจใหม่ให้ตลาดหุ้นไทย ดร.สรพล เผยว่า คนรุ่นใหม่สนใจปัจจัยไฮเทค เรื่องใหม่ๆ หรืออะไรที่ทำให้เขาลงทุนได้สะดวก เปิดบัญชีง่าย ลงทุนได้ 24 ชั่วโมง และลงทุนแล้วได้ผลคอบแทนไว ทางตลท.ได้พยายามปรับรูปแบบในเรื่องของการลงทุน 2 เรื่อง คือ Traditional Assets จะทำอย่างไรให้เปิดบัญชีได้ง่ายขึ้น ทำอย่างไรให้สามารถลงทุนได้ด้วยจำนวนเงินไม่เยอะ และลงทุนเป็นเงินบาท ซึ่งเรียกโครงการนี้ว่า Fractional DR จะทำอย่างไรให้มีหุ้นที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ เป็นบริษัทที่คนรู้จัก และดำเนินการตั้ง Thailand digital exchang คาดว่าในไตรมาส 3 จะเริ่มให้บริการได้ และการให้ความรู้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้ที่จะเข้ามาในตลาดหุ้น.-สำนักข่าวไทย