สุราษฏร์ธานี 8 พ.ค. – ชาวสุราษฎร์ธานี 3 อำเภอ เดือดร้อนหนัก น้ำป่าพัดบ้านพัง ข้าวของเครื่องใช้เสียหายหมด คราบโคลนเต็มบ้าน บางบ้านน้ำพัดหายไปทั้งหลัง เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือฟื้นฟู
เกิดน้ำป่าไหลหลากรุนแรงในพื้นที่ติดเทือกเขา อ.ไชยา อ.ท่าฉาง และ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำพัดไปทั้งหลัง ทรัพย์สินเสียหาย
นายชูศักดิ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 63/4 ม.8 บ้านคลองใส ต.ตะกุกใต้ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี ที่ถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าบ้าน ต้องหนีเอาชีวิตรอด หยิบทรัพย์สินได้เพียงเครื่องตัดหญ้าและรองเท้า
นายสมพร อินทรมณี กำนันตำบลตะกุกใต้ บอกว่า ตอนนี้มีชาวบ้านที่บ้านพังเสียหายทั้งหลังประมาณ 14 ครัวเรือน และบางส่วนอีกกว่า 20 ครัวเรือน ต้องอาศัยบ้านญาติเป็นการชั่วคราว
ตอนนี้หลายครอบครัวขาดแคลนเสื้อผ้า อุปกรณ์การประกอบอาหาร และของใช้ที่จำเป็น หากใครอยากช่วยเหลือ สามารถบริจาคเสื้อผ้าได้ หลังจากนี้เจ้านี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการช่วยฟื้นฟูให้ชาวบ้านกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้งให้เร็วที่สุด
สำหรับสถานการณ์โดยรวม บ้านเรือนยังคงถูกดอนโคลนทับถมจำนวนมาก เช่นเดียวกับเส้นทางสัญจรยังมีโคลนเป็นระยะ รวมถึงคอสะพานขาดหลายจุด ทาง อบจ.สุราษฎร์ธานี นำเครื่องจักรเข้าให้การช่วยเหลือ ซ่อมแซมเบื้องต้นให้กลับมาใช้งานได้ก่อน พร้อมวางแผนซ่อมแซมให้ปกติเหมือนเดิมโดยเร็วที่สุด
กรมอุตุฯ เตือนฝนภาคใต้เพิ่มขึ้น
กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศพายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวเบงกอล เมื่อเวลา 04.00 น. (8 พ.ค. 65) พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วลมสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลนในวันนี้ (8 พ.ค. 65) มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวขึ้นไปปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนบนในช่วงวันที่ 9-10 พ.ค. 65 พายุนี้จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับประเทศไทย แต่จะทำให้ลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลอันดามัน มีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในบริเวณภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ในขณะที่อ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง.-สำนักข่าวไทย