ดีเอสไอ 23 ธ.ค.- ดีเอสไอจับขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบรายใหญ่ที่สุดในประเทศ พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 4,000 ล้านบาท เตรียมขอหมายศาลจับหัวหน้าและผู้ร่วมขบวนการอีก 2,000-3,000 คน
พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านอำนวยความยุติธรรม และ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมแถลงข่าวกรณีบุกค้นจับกุมกลุ่มขบวนการปล่อยหนี้นอกระบบรายใหญ่ที่สุดของประเทศ มีเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการการกระทำความผิดมากกว่า 2,000 ราย และมีประชาชนที่เป็นลูกหนี้ประมาณ 170,000 ราย รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดกว่า 150 ล้านบาท
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า สำหรับขบวนการนี้รู้จักกันดีในชื่อ แก๊งหมวกกันน็อก ทางกระทรวงฯ ได้รับเบาะแสทั้งทางการข่าวเปิดและทางลับ จึงได้สั่งการดีเอสไอดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน โดยใช้เวลาสืบสวนนานกว่า 2 ปี จากข้อมูลพบว่า ขบวนการนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 และดีเอสไอมีมติเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2559 เห็นชอบให้กรณีขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเป็นคดีพิเศษ ซึ่งขบวนการนี้คิดอัตราดอกเบี้ยผู้ขอกู้ที่ร้อยละ 20 ต่อ 25 วัน คำนวณคร่าวๆ ดอกเบี้ยต่อปีจะอยู่ที่ร้อยละ 300 ซึ่งหากใครตกเป็นเหยื่อ โอกาสในการหลุดออกมาจากวงจรทำได้ยากมาก
ขบวนการนี้มีลักษณะการกระทำความผิดโดยจัดตั้งบริษัทบังหน้า มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ จ.ปทุมธานี และสาขาทั่วประเทศมากกว่า 86 สาขา มีเครือข่ายผู้กระทำความผิดมากกว่า 2,000 ราย และมีประชาชนที่เป็นลูกหนี้กว่า 170,000 ราย เงินหมุนเวียนในระบบมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดีเอสไอได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ทหาร ตำรวจ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเป้าหมายสถานที่และเข้าจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 26 จุด ทั้งในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เชียงใหม่ สงขลา และขอนแก่น สามารถยึดทรัพย์ที่ได้มาหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ได้แก่ รถยนต์ จำนวน 26 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 86 คัน ตู้นิรภัย จำนวน 14 ตู้ ธนบัตรไทยและเงินสกุลต่างประเทศ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การสื่อสาร และของมีค่าจำนวนหลายรายการ เช่น ทองรูปพรรณ สร้อยคอ แหวนเพชร และพระเครื่อง นอกจากนี้ได้ดำเนินการอายัดบัญชีเงินฝาก จำนวน 28 เล่ม อาวุธปืน 4 กระบอก และลูกกระสุนปืน จำนวน 309 นัด โฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 5 แปลง นอกจากนี้ยังพบผ้ายันต์เลสเตอร์ของเจ้าคุณธงชัยด้วย รวมทั้งสิ้นมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท
สำหรับผู้ต้องหาที่จับกุมได้ที่สำนักงานใหญ่ จ.ปทุมธานี จับกุมเจ้าหน้าที่ด้านไอที ที่ควบคุมดูแลระบบบัญชีการเงิน เชื่อจะนำไปสู่การจับกุมตัวการใหญ่ได้ในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ยังมีรายชื่อ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของสมาชิกขบวนการ โดยเตรียมขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งมีประมาณ 2,000-3,000 คน ต่อไป ในจำนวนนี้รวมถึงหัวหน้าขบวนการที่อยู่ระหว่างการหลบหนีด้วย พร้อมพบข้อมูลว่า มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องช่วยเหลือเมื่อลูกหนี้มาร้องเรียนกับหน่วยงานรัฐด้วย ขณะนี้กำลังดำเนินการหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเอาผิด หากผู้เสียหายหรือลูกหนี้ ขอให้นำข้อมูลมาให้กับทางดีเอสไอ หากนำไปสู่การจับกุมจะมีรางวัลนำจับให้ด้วย.-สำนักข่าวไทย