สธ. 21 เม.ย.-“อนุทิน” รมว.สธ.รับมอบวัคซีนโควิด COVOVAX 200,000 โดส จาก 4 ประเทศ โดยเป็นวัคซีนโปรตีนซับยูนิต เล็งใช้ฉีดในคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนและกลุ่มคนแพ้วัคซีน เตรียมพิจารณาเป็นเข็มกระตุ้นหรือบูสเตอร์โดส เบื้องต้นจะใช้กระจายฉีดใน รพ.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบวัคซีนโควิด COVOVAX ที่ผลิตในอินเดีย โดยได้รับการบริจาคจากจตุภาคีด้านความมั่นคง 4 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา จำนวน 200,000 โดส มูลค่า 60 ล้านรูปี หรือ 26 ล้านบาท เพื่อใช้ฉีดให้กับกลุ่มคนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน หรือคนที่มีอาการแพ้วัคซีนชนิดอื่น ซึ่งวัคซีนที่ได้รับนี้เป็นวัคซีนชนิดโปรตีนซับยูนิต ต้องฉีดให้ครบ 2 เข็ม ระยะห่างระหว่างเข็ม 1 และ 2 คือ 3 สัปดาห์ และได้ผ่านการอนุมัติจาก อย.แล้ว เบื้องต้นมีการขออนุมัติการฉีดในคนอายุ 18 ปีขึ้นไป และเตรียมขออนุมัติใช้ในเด็กอายุ 12 ปี และกรมวิทยาศาตร์การแพทย์อยู่ระหว่างรับรองรุ่นการผลิต
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับวัคซีนโควิดทุกชนิดมีความปลอดภัย โดยโปรตีนซับยูนิต เป็นเทคโนเลยีการผลิตเดิมที่ใช้ในการผลิตวัคซีนไวรัสตับอักเสบ บี แตกต่างจากวัคซีน ชนิด m-RNA ที่เป็นเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ยังไม่มีใครทราบถึงผลของวัคซีนในระยะกลางและยาว โดยวัคซีนโปรตีนซับยูนิตมีความปลอดภัยเท่ากับวัคซีนเชื้อตาย ซึ่งวัคซีน COVOVAX คาดว่าจะนำมาฉีดในกลุ่มคนที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน และกลุ่มคนที่มีอาการแพ้วัคซีนชนิดอื่น ๆ คาดว่ากว่า 1,000 คน เช่น กลุ่มคนที่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือการแพ้ โดยวัคซีน 1 ขวด สามารถฉีดได้ 10 คน/โดส ขนาดโดสละ 0.5 CC และต้องเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียล สำหรับวัคซีน COVOVAX มีอายุการใช้งานภายในเดือนกันยายนนี้
นพ.โอภาส กล่าวว่า เบื้องต้นพิจารณากระจายวัคซีน COVOVAX ในสถานพยาบาล ส่วนการนำวัคซีนโปรตีนซับยูนิตมาบูสเตอร์โดสนั้น สถาบันทางการแพทย์ต้องเสนอเข้าสู่คณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันฯ พิจารณา ส่วนอัตราคนที่ได้รับวัคซีนในประเทศไทยขณะนี้หากไม่นำรวมเด็กอายุ 5 ปี ที่มีอยู่ 3-4 ล้านคน คนที่จำเป็นสมควรได้รับวัคซีน คาดว่ามี 80% หรือประมาณ 55-56 ล้านคน จากจำนวนประชากร 69 ล้านคน ส่วนที่ยังไม่ฉีดคาดว่ามีประมาณ 9-10 ล้านคน .-สำนักข่าวไทย