กรุงเทพฯ 8 มี.ค. – กลุ่มผู้เสียหายร้อง ปอศ. เอาผิดเจ้าของบริษัทพลังงาน หลังถูกหลอกร่วมลงทุน แต่ไม่ได้รับเงินปันผล มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท
กลุ่มผู้เสียหายที่ไม่ได้รับเงินปันผลจากการลงทุน “aussie oil” บริษัทลงทุนพลังงาน ทยอยเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. เพื่อดำเนินคดีกับทางบริษัท และประธานกรรมการบริษัท ในคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งประเมินมูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท
1 ในผู้เสียหายเล่าว่า ปกติไม่เคยเชื่อการลงทุนแบบนี้ แต่เพราะเห็นประธานกรรมการบริษัทไปออกรายการโทรทัศน์หลายช่อง โปรโมทการลงทุน มีดารานักแสดงมารีวิว ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือว่ามีการทำธุรกิจจริง หลังศึกษามาสักระยะ จึงตัดสินใจลงทุนโครงการตู้น้ำมันหลอดเหรียญ ราคาตู้ละ 79,000 บาท โดยบริษัทจะนำตู้น้ำมันฯ ไปวางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และจะจ่ายเงินปันผลให้เดือนละ 3,000 บาทต่อตู้ จึงลงทุนไป 10 ตู้ และได้ผลตอบแทนมาตลอดระยะเวลา 3 ปี ทำให้มั่นใจและตัดสินใจลงทุนเพิ่มกับ โครงการคลังน้ำมันเพื่อการเกษตรอีก 200,000 บาท ก็ได้ผลตอบแทนเช่นกัน แต่โครงการล่าสุด คือ รถขยะพลังงานไฟฟ้าลงทุนไป 500,000 บาท กำหนดจ่ายผลตอบแทนวันที่ 5 มีนาคม แต่เพียงงวดแรกก็ไม่จ่ายปันผลแล้ว
เมื่อติดต่อไปทางบริษัท อ้างว่ามีปัญหาเรื่องระบบการโอนเงิน บริษัทไม่สามารถอัปโหลดไฟล์ได้ และจะโอนได้อีกครั้งวันที่ 6 มีนาคม แต่สุดท้ายก็ไม่มีเงินเข้า เมื่อคาดคั้นพนักงานขาย ก็ได้รับคำตอบว่าประธานกรรมการบริษัทพร้อมเลขาหลบหนีไปหมดแล้ว ทิ้งไว้แต่เพียงสำนักงานที่อยู่ในตึกหรูย่านสาทร ทั้งนี้ เงินดังกล่าวที่ลงทุนเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของตนเองและลูก สามีก็ออกจากงานเพื่อมาลงทุนตรงนี้ ทำให้ตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลย สูญเสียทุกอย่าง และผู้เสียหายส่วนใหญ่ ก็เป็นผู้สูงอายุที่นำเงินเก็บมาลงทุนเช่นกัน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้และอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าประธานกรรมการบริษัทดังกล่าวได้ขนข้าวของทั้งหมดย้ายออกจากบ้านที่ย่านพระราม 2 ไปเก็บไว้ที่บ้านในจังหวัดเชียงราย ส่วนเจ้าตัวซื้อตั๋วเครื่องบินไปประเทศออสเตรเลียเมื่อวันที่ 6 มีนาคม หลังไปปรากฎตัวในงานสัมมนาโปรโมทการลงทุนครั้งใหม่ที่โรงแรมหรู เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา และไม่มีใครติดต่อได้อีกเลย.-สำนักข่าวไทย