แนะราชการนำดิจิทัลพัฒนาการทำงาน

ทำเนียบรัฐบาล 25 ก.พ.-“อนุชา” แนะหน่วยงานราชการนำระบบดิจิทัลมาใช้พัฒนาศูนย์ราชการสะดวก ลดความเสี่ยงโรคระบาด ตอบโจทย์บริการประชาชนฉับไว


นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ราชการสะดวก ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนท์ โดยกล่าวว่า ส่วนหนึ่งของการสร้างแรงจูงใจการดำเนินงานของข้าราชการ คือการกำหนดรางวัลและการรับรองมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก หรือ GECC เพื่อช่วยดึงประสิทธิภาพของข้าราชการมาใช้อย่างเต็มศักยภาพ และสร้างขวัญและกำลังใจให้ข้าราชการมีแรงจูงใจทำงาน เพื่อรับใช้ประเทศชาติและประชาชนได้อย่างเต็มความสามารถ

“ขอให้ส่วนราชการประสานความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) นำร่องระบบบริการประชาชนได้ฉับไว ช่วยลดระยะเวลาการมาติดต่อราชการ สร้างความพึงพอใจแก่ประชาชน โดยเพิ่มช่องทางบริการผ่านระบบออนไลน์ ช่วยลดความเสี่ยงการระบาดของเชื้อโรค และลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางมาใช้บริการ” นายอนุชา กล่าว


ทั้งนี้ ที่ประชุมให้ความเห็นชอบแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจประเมินมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก จำนวน 10 คณะ ประจำปี พ.ศ. 2565 และแนวทางการตรวจประเมินมาตรฐานของคณะอนุกรรมการฯ จำนวน 10 คณะ เพื่อสนับสนุนภารกิจของคณะกรรมการฯ ตรวจประเมินมาตรฐานหน่วยงานที่สมัครขอรับการรับรองมาตรฐาน  GECC และตรวจประเมินการรักษามาตรฐานของหน่วยงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GECC ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินที่คณะกรรมการ ฯ กำหนดตามพื้นที่จังหวัดที่ตรวจประเมิน 

ที่ประชุมรายงานผลการตรวจประเมินการรักษามาตรฐานหน่วยงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก ประจำปี พ.ศ. 2562-2563 จำนวน 313 ศูนย์ โดยใช้การตรวจประเมินจุดให้บริการหรือข้อมูลที่สามารถเห็นเป็นประจักษ์ (Surprise Check) ได้แก่ งานบริการ การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ระบบการประเมินความพึงพอใจ คุณภาพบริการ การจัดการเรื่องร้องเรียน และการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นจากเดิมและเป็นเรื่องใหม่ เป็นต้น

ที่ประชุมหารือแนวทางการสร้างแรงจูงใจในการขอรับการรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก ที่ไม่ใช่เงินรางวัล ซึ่งจากการสำรวจข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐที่ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น จำนวน 1,321 คน พบว่าสิ่งจูงใจที่ข้าราชการอยากได้รับเป็นรางวัล มี 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านความสำเร็จของงาน ด้านเงินเดือนและสวัสดิการ ด้านการยอมรับนับถือ ด้านความก้าวหน้า และด้านอื่น ๆ ตามลำดับ.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมรอบนอก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤติ

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ในพื้นที่ไข่แดงหรือพื้นที่เศรษฐกิจ น้ำยังไม่สามารถจะเจาะเข้าไปได้ โดยนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่มั่นใจถ้าฝนตกลงมาไม่มากไปกว่านี้จะสามารถดูแลพื้นที่ในเทศบาลนครหาดใหญ่

ปัตตานีจมบาดาล-ถนนถูกตัดขาด

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤติในหลายจังหวัด เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การระบายน้ำแทบไม่สามารถทำได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลายแสนคน

เร่งรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2 จราจรติดขัดหนัก

เหตุแผ่นยกคานปูนและเครนก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงรื้อถอนโครงสร้างที่พังถล่มไม่แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่การจราจร ถ.พระราม 2 ทั้งขาเข้า-ขาออก ติดขัดหนัก แนะเลี่ยงเส้นทาง

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท